ผบช.ภ.2สั่ง ตร.บ่อทอง ตามจับนักเลงปืน 11 มม. รวบตัวได้ที่บ้านพร้อมอาวุธปืน(ชมคลิป)

ผบช.ภ.2สั่ง ตร.บ่อทองตามจับนักเลงปืน 11 มม. เป็นน้องชายอดีตนักการเมืองคนดัง ต.พลวงทอง  รวบตัวได้ที่บ้านพร้อมปืน แค้นขับเรือเจ็ตสกีเฉี่ยวลูก 

จากกรณีนายพิษณุ พุทธคี อายุ 38 ปี บ้านเลขที่172 ม.2 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี นายชัยยงค์ พุทธคี อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 349 ม.2 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี  2 พ่อลูก ได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวขอความเป็นธรรมกรณี ถูกนักการเมืองท้องถิ่นพร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์รวม 4 คน ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยขณะที่นักการเมืองท้องถิ่นและพวกได้รุมทำร้ายได้มีชายฉกรรจ์ชักอาวุธปืนพกขนาด 11 ม.ม.ขึ้นลำปืน คุมเชิงกราดปืนใส่คนในครอบครัวของตนเอง เพื่อไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือ 2 พ่อลูกที่ถูกรุมทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดบริเวณริมอ่างเก็บน้ำคลองกระแส  ซึ่งมีประชาชนที่เดินทางมาพักผ่อนในบริเวณดังกล่าวเห็นเหตุการณ์จำนวนมาก

 

 

นายพิษณุ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า   เมื่อวันที่ 14 เม.ย.65 เวลา 14.00 น. นายพิษณุ พร้อมนายชัยยงค์ซึ่งเป็นพ่อ  ได้พาครอบครัวมีทั้งเด็กเล็กและลูกหลานจำนวน 10 กว่าคนเดินทางไปเล่นน้ำและขับเรือเจ็ตสกีเล่นในวันหยุดช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ที่อ่างเก็บน้ำคลองกระแส ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี บริเวณจุดที่นำเรือเจ็ตสกีลง ระหว่างนั้นได้มีรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน สีเทา ขับเข้ามา มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อสีเทามากับเด็ก 2-3 คน ซึ่งเด็กทั้ง 2-3 คนก็ได้มาเล่นน้ำอยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณที่ลูกหลานของนายพิษณุ ลงเล่นน้ำ  ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น.นายชัยยงค์ ได้ขับเรือเจ็ตสกีเข้าฝั่ง แต่ระหว่างที่นำเรือเจ็ตสกีเข้าฝั่งเพื่อจอดนั้น เรือไปเฉียดกับเด็กที่มากับชายที่ใส่เสื้อสีเทาเล่นน้ำอยู่ ทำให้ชายเสื้อสีเทาไม่พอใจสั่งให้เด็กที่มาด้วยขึ้นจากน้ำและขับรถกลับไป  ต่อมาเวลา 15.30 น.ได้มีรถยนต์กระบะจำนวน 2 คัน ขับเข้ามาจอดบริเวณที่ด้านหน้าอ่างเก็บน้ำ มีชายฉกรรจ์ 4  คนเดินกรูลงมาจากรถยนต์ คนหนึ่งที่จำได้คือชายที่ใส่เสื้อสีเทาที่มากับเด็ก และยังมีชายอีกคนหนึ่งใส่เสื้อสีแดงกางเกงขาสั้น เป็นคนขับรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทันสีแดง  เมื่อมาถึงชายที่ใส่เสื้อสีแดง ก็ได้ชักอาวุธปืนพกขนาด 11 ม.ม.ที่เตรียมมาพร้อมกับขึ้นลำปืน ทำให้ลูกปืนที่อยู่ในลำกล้องกระเด็นตกออกมา 1 นัด  จากนั้นชายเสื้อแดงได้กราดปืนใส่คนในครอบครัวของตนเอง พร้อมตะโกนถามหาคนที่ขับเรือเจ็ตสกี บอกว่าใครขับเรือไปชนเด็ก  ซึ่งตนเองพยายามจะอธิบายแต่กลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คนไม่ฟัง ชายเสื้อสีเทาได้ตรงเข้าทำร้ายตนเองจนได้รับบาดเจ็บ  พร้อมทั้งยังได้ชกต่อย จนท.ตร.อาสาที่มากับผู้ใหญ่บ้านต.พลวงทอง ที่พยายามเข้าห้ามปรามจนได้รับบาดเจ็บไปอีกคนหนึ่ง  หลังจากนั้นชายที่ใส่เสื้อสีเทาได้เข้าไปทำร้ายนายชัยยงค์ พ่อของตนที่พยายามเข้ามาช่วยเหลือตนเอง จนได้รับบาดเจ็บคิ้วแตกและยังถูกชกเข้าบริเวณเป้าตาข้างซ้ายเป็นรอยฟกช้ำ  ซึ่งต่อมาทราบว่าชายเสื้อเทาที่ก่อเหตุทำร้ายตนเองและพ่อนั้น เป็นนักการเมืองท้องถิ่นเคยมีตำแหน่งใหญ่ในพื้นที่อ.บ่อทอง  และชายเสื้อแดงที่ชักปืนมาคุมเชิงเป็นน้องชายของชายของนักการเมืองคนดังกล่าว    หลังจากเกิดเหตุตนเองและพ่อได้พาครอบครัวไปแจ้งความที่สภ.บ่อทอง แต่ระหว่างที่เดินทางไปโรงพัก กลุ่มชายฉกรรจ์ได้ขับรถมิตซูบิชิ ไทรทันสีแดง ติดตามวิ่งจี้ไล่หลังรถยนต์ของตนเองซึ่งมีการถ่ายภาพคลิปไว้เพื่อเป็นหลักฐาน    เมื่อไปถึงสภ.บ่อทอง คู่กรณีก็เข้าไปแจ้งความกับตำรวจ กล่าวหาว่า นายชัยยงค์ขับเรือชนเด็ก ส่วนการทำร้ายร่างกายนั้นก็เป็นการจงใจวิวาทระหว่างพ่อและตัวผมกับพวกเขา   โดย พ.ต.ต.สมเดช  เกตุวัตถา สว.สอบสวน ได้รับแจ้งความไว้ แต่ให้ตัวผมกับพ่อไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการและให้นำใบรับรองแพทย์มาให้และสอบปากคำในเรื่องที่เกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น   เพราะไม่อยากให้มีการเผชิญหน้ากับคู่กรณีจำนวนมากที่เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.บ่อทอง เหมือนกัน

 

 

 

ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 16 เม.ย.65 ที่ สภ.บ่อทอง พ.ต.ต.สมเดช เกตุวัตถา พนักงานสอบสวน ได้กล่าวว่า ตำรวจรับแจ้งความคู่กรณีทั้งสองฝ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่เกิดเหตุแล้ว แต่ที่ให้ฝ่ายหนึ่งกลับไปก่อนเพราะกลัวมีเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นซ้ำอีกที่โรงพัก ก็เลยให้ไปพบแพทย์เพื่อเอาไปรับรองจากแพทย์เพื่อเป็นหลักฐานในการถูกทำร้ายร่างกาย  ส่วนคนเสื้อแดงที่ปรากฎในคลิปมีการชักอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.ออกมานั้น ตร.ชุดสืบสวนสภ.บ่อทอง ได้ดำเนินการจับกุมตัวได้แล้วทราบชื่อว่านายวิฑูรย์หรือ หมู มงคลพิพัฒน์ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 3/1 ม.5 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่งนายหมูเป็นน้องชายของนักการเมืองคนหนึ่งที่ร่วมก่อเหตุวิวาทด้วย  โดยนายหมูรับสารภาพบอกว่าได้มีการชักอาวุธปืนปรากฏตามคลิปจริง

ทางด้าน พ.ต.อ.เอกภพ อินทวิวัฒน์ รอง.ผบก.ชลบุรีได้ทำหนังสือชี้แจงมีรายละเอียดว่า  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ชลบุรี ได้สั่งกำชับให้ ตร.สืบสวน สภ.บ่อทอง ติดตามตัวชายเสื้อแดงที่ปรากฎตามคลิป ซึ่งได้ใช้อาวุธปืนออกมาข่มขู่คู่กรณี รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดดังกล่าวทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมูลเหตุคดีนี้ เกิดจากฝ่ายคู่กรณีได้ขับเจ็ตสกีไปเฉี่ยวชนเด็กซึ่งเป็นบุตรของชายเสื้อแดง ต่อมาเวลา 22.00 น.วันที่ 15 เม.ย.65 ตร.ชุดสืบสวนสภ.บ่อทอง ได้จับกุมตัวนายวิฑูรย์ หรือหมู  มงคลพิพัฒน์ บิดาของเด็กซึ่งถูกเรือเจ็ตสกีเฉี่ยวชน โดยพบตัวที่บ้านเลขที่ 3/1 ม.5 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่งนายวิฑูรย์หรือหมู ได้ยอมรับว่าได้นำอาวุธปืนพกสั้นขนาด .45 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนและซองพกจำนวน 1 ซอง ตามที่ปรากฏตามคลิป  ซึ่งจนท.ตร.ได้แจ้งข้อหาให้ทราบและดำเนินคดีในข้อหา “ในฐานความผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว” ซึ่งนายวิฑูรย์ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา  โดย พ.ต.อ.บัณฑิต ธรรมอนันต์ ผกก.สภ.บ่อทอง ได้รายงานว่าคดีนี้เป็นการทะเลาะวิวาทของบุคคลทั้ง 2 ฝ่าย สาเหตุคู่กรณีขับเรือเจ็ตสกีไปเฉี่ยวชนเด็กซึ่งเป็นบุตรของชายเสื้อแดง หลังเกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่ายได้ไปแจ้งความดำเนินคดีซึ่งกันและกัน พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์แล้วให้ไปชันสูตรบาดแผลที่รพ.บ่อทอง พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

 

 

 

ทางด้าน นายชัยยงค์ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าพาลูกหลานมาเล่นน้ำก็เล่นอยู่ปรกติ  ก็มีเด็กกลุ่มหนึ่งมาเล่นกับลูกหลานเรา ทีนี้ผู้ปกครองเขาหาว่าเราขับเจตสกีไปชนเด็กโดยที่เราเองก็ไม่รู้ เพราะเราไม่ได้ชน  แต่เขากลับไปก็ไม่ได้มาแจ้งว่าเราชนเด็กหรืออย่างไร และเราก็ไม่ได้ชนเด็กเลยไม่รู้สาเหตุ  พอเขากลับมาอีกครั้งเขาก็เอาปืนมาเป็นปรากฏที่เห็นในคลิป  ผู้สื่อข่าวถามว่าเขากลับไปนานไหม นายชัยยงค์กล่าวว่าก็กลับไปพักใหญ่เกือบชั่วโมงก็กลับมาพร้อมพวก ผมก็ยังไม่รู้พอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายมาก็เห็นว่าลูกโดนต่อยแล้ว ผมก็ไปดึงคนทำร้ายลูกผมออก เขาก็เลยสวนมาต่อยผมมาอีกทีโดนคิ้วที่เป็นแผล อีกคนก็เอาปืนคลุมเชิงไว้เลย ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนไม่เคยมีเหตุโกรธเคือง ผู้ใหญ่บ้านก็มาห้ามไม่มีใครฟัง เขาก็ไม่พูดเลยว่าขับเรืออย่างไรมาชนหลานชนลูกเขาอย่างไร ผมจะได้ไปคุยหรือไปขอโทษ แต่เขามาถึงไม่ได้คุยอะไรเลย พอรู้ว่าเป็นผมเป็นคนขับเจ็ตสกีก็ปรี่เข้ามาทำร้าย ส่วนตำรวจบ้านที่มาระงับเหตุคนนั้นก็โดนล็อกคอก็โดนทำร้ายฟันหัก ปากฉีก โดนหนัก พอคนนั้นล้มเขาก็เข้ามาต่อยลูกผม ลูกผมล้มก็ลุกขึ้นมาคุยกับเขาๆก็ต่อยอีกจนล้มเป็นครั้งที่ 2  ผมจึงไปคว้าคอเสื้อดึงเขาออกมาเขาก็เลยชกผม ๆ จำหน้าได้หมด วันนั้นเขามากัน 4 คน ถือปืนคุมเชิง 1 คน คนทำร้าย 1 คน ยืนคุมเชิง 2 คน คนที่ถือปืนก็ขึ้นลำปืน ทำให้ลูกปืนร่วงในที่เกิดเหตุ 1 นัดก็ถ่ายภาพไว้ วันนี้ก็มาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ ฝ่ายเขาก็มีคนใหญ่โตฝากฝังมา เพราะเป็นนักการเมืองเคยมีตำแหน่งใหญ่ คนที่ชักปืนก็เป็นน้องชายเขา คนเรามีอะไรก็ต้องคุยกันก่อน ถ้าผมขี่เรือไปใกล้ลูกเขาก็ไปขอโทษได้จะได้จบไป แต่ทีนี้ไม่รู้ตัว พอมาถึงก็ซัดพวกผม ถ้าผมขับเรือไปโดนใครก็ต้องรีบพาไปรักษา ไม่ใช่มาถึงก็ต่อย ครั้งแรกไม่ได้คุย ครั้งที่สองเอาพวกมาเอาปืนมาๆ เพื่ออะไร การขึ้นลำปืนก็เท่ากับว่ามาขู่ฆ่าผม อย่างนี้ก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

 

ธนา ธรรมวาจา / เจียรพรรณ สุรนันท์ ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ชลบุรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ลูกขับรถฝ่าสายฝน เจอน้ำท่วมทาง รถตกถนนจมน้ำครึ่งคัน กู้ภัยดำน้ำช่วยลูกจมน้ำ ช่วยแม่รอดปลอดภัย
จับกุม 38 ชีวิต! ขบวนการลักลอบเข้าเมือง แอดมินเว็บพนัน-แรงงานข้ามชาติ-บัญชีม้า
กิจการพิเศษเมืองพัทยาคุมตัวหนุ่มน้อยรัสเซีย มือบอนพ่นสีสเปรย์ ใส่กำแพงสะพานแหลมบาลีฮายพัทยา
แม่ทัพภาคที่ 2 เข้าเยี่ยม "3 ทหารกล้า" ให้กำลังใจเหยียบกับดักบึ้ม ล่าสุดอาการปลอดภัย พ้นขีดอันตราย
จีนเล็งคุมสงครามรถอีวีที่ดุเดือดอย่าง ”ไร้เหตุผล”
สวนนงนุชพัทยา สร้างความสำเร็จระดับโลก ปลอก “มะพร้าวทะเล” หายาก 9 ลูก พบเมล็ดแฝดรวม 10 เมล็ด มูลค่าทะลุล้านบาท
ไม่รอด จนท.บุกรวบ "ชายชาวอเมริกัน" วัย 60 ปี คาสนามบินภูเก็ต ลอบขนเฮโรอีน หนัก 6.6 กิโล เตรียมบินไปเมืองน้ำหอม
เปิดไทม์ไลน์ ทหารกัมพูชา แอบสร้างสนามทุ่นระเบิดใหม่ “วาสนา นาน่วม” แฉ PMN-2 ไม่ใช่บึ้มเก่าตกค้าง
"อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2" ซัด "กัมพูชา" ลอบวางบึ้ม เนิน 481 ทหารไทยลาดตระเวน พลาดเหยียบเจ็บ 3 ชี้เขมรผิดสัญญาออตตาวาซ้ำซาก
"ภูมิธรรม" เผย "สมเด็จพระสังฆราช" รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มงวด กำชับอย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อมเสีย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น