วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมาบริเวณหมู่ 3 ตำบลมาบยางพร ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยปลวกแดงรับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายรถจักรยานยนต์และมีผู้บาดเจ็บจากนั้นายพนมพรอ่อนสระทุมอาสากู้ภัยปลวกแดงพร้อมกับเพื่อนจึงไปที่เกิดเหตุและเมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย กำลังทำร้ายกัน นาย พนมพร จึงเข้าไปห้ามปรามแยกทั้ง 2ฝ่าย ออกจากกันจากนั้น นางสาว เสริมศิริพนมวาลได้เข้าไปขอยารักษาบาดแผลจากนายพนมพรจากนั้นทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกันและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงถ่ายคลิปขณะที่โต้เถียงกันโพสต์ลงในโซเชียลหลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ออกไปสังคมโซเชียลได้โพสต์คอมเม้นถึงความไม่เหมาะสมของกลุ่มสาววัยรุ่นที่มึนเมาและโต้เถียงกับอาสากู้ภัยแต่ก็เกิดแสงแตกในโซเชียลซึ่งมีบางคนก็คอมเม้นถึงการทำหน้าที่ของกู้ภัยด้วยเช่นกันและเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นางสาว เสริมศิริ และ นาย พนมพร อาสากู้ภัยคู่กรณีได้เดินทางมาที่ สภ.ปลวกแดง

เพื่อเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากทั้งคู่ถูกโซเชียลวิจารณ์และแสดงความคิดเห็นด้วยข้อความรุนแรน นาย พนมพร เปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อกลางดึงที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากศูนย์สังการว่ามีอุบัติเหตุที่ตลาดสะพานสี่ ตำบลมาบยางพร จากนั้นจึงไปที่เกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนกู้ภัยและเมื่อไปที่เกิดเหตุพบกลุ่มสาววัยรุ่นกำลังรุมทำร้ายสาววัยรุ่นคนขับรถยนต์เก๋งตนเองและเพื่อนจึงเข้าไปห้ามปรามและแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกันระหว่างนั้น นางสาว เสริมศิริ ได้มาหาตนเองและขอเจาะเลือดคู่กรณีตนเองจึงบอกไปว่าตนเองเป็นกู้ภัยไม่ใช่หมอไม่หน้าที่เจาะเลือดจากนั้นจึงเกิดโต้เถียงกัน ทางด้านนางสาวเสริมศิริคู่กรณีเปิดเผยว่ายอมรับว่าขณะเกิดเหตุตนเองและเพื่อนมึนเมาสุราจริงซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองขับขี่รถยนต์ไปรับประทานอาหารที่ตลาดสะพานสี่และขณะที่หยุดรถได้มีรถยนต์เก๋งขับชนท้ายรถทำให้ตนเองบาดเจ็บจากนั้นได้วิวาทกับคู่กรณีกระทั้งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาที่เกิดเหตุตนจึงไป

ขอยารักษาบาดแผลแต่ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่อว่าจึงมีปากเสียงกันตามที่ปรากฏในคลิปแต่ทั้งนี้ผู้ที่ชมคลิปไม่ได้อยุ่ในเหตุการณ์จึงไม่ทราบเรื่องแท้จริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่วน นางสาว กมลรัตน์ บุญต่าย เพื่อน นางสาว เสริมศิริ เปิดเผย ตนเองเป็นคนใช้มือตบรถยนต์คันที่ชนรถ นางสาว เสริมศิริ และ ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปไว้เนื่องจากในรถของหญิงสาวคนดังกล่าวมีขวดสุรา และวันนี้นางสาวเสริมศิริและนายพนมพรคู่กรณีมาพบกันที่ สภ.ปลวกแดง เพื่อทำความเข้าใจกันและต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจดำเนินคดีซึ่งกันและกันซึ่งนายพนมพรก็จะลบคลิปที่โพสต์ออกจากโซเชียลต่อไป
ราชัญ กองทอง ผู้สื่อข่าวTOPNEWS ประจำ จ.ระยอง

