ประชุมครม. 5 เม.ย.2565 ที่ผ่านมาดูไม่น่าจะมีอะไร หากไม่เกิดกรณี “เจ๊แหม่ม” น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย น้องสาวสุดรักสุดเลิฟของชาดา ไทยเศรษฐ์ เจ้าพ่ออุทัยธานี ที่เกิดกรณีปะทะคารมเม่งแตกกับ “เสี่ยท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังถกเถียงกันเรื่องถุงพลาสติก ระหว่างการพิจารณาวาระเรื่องการขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพซึ่งสิ้นสุดไปตั้งแต่เดือน ธ.ค.2564 โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ย่อยสลายไม่ได้
ระหว่างพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ดีๆ บรรยากาศในครม.เป็นไปอย่างปกติ ปรากฎว่ามนัญญาได้หยิบยกกรณีร้านค้าไม่ยอมให้ถุงพลาสติกกับประชาชนที่มาซื้อของ แต่กลับเอามาขายที่ถือว่าเป็นการเอาเปรียบประชาชน จึงอยากฝากเรื่องนี้ไปถึงรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร จุดนี้จึงทำให้วราวุธที่นั่งอยู่ในครม.สวนกลับขึ้นมาทันทีว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับกระทรวงผม เพราะเราดูแค่นโยบายลดการใช้พลาสติก ส่วนการขายเป็นเรื่องของร้านค้า ขออย่าพูดพาดพิง อย่าพูดเพื่อเรื่องนี้แบบเอามันส์” เมื่อได้ยินแบบนี้ทางมนัญญาจึงกดไมค์ตอบโต้สวนกลับไปว่า “พูดแบบนี้ไม่รับผิดชอบ” จากนั้นรัฐมนตรีทั้ง 2 คน มีการเปิดไมค์ตอบโต้กันไปมาหลายครั้ง ทำให้บรรยากาศในที่ประชุมครม.ตึงเครียดขึ้นมาทันที จน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ถึงกับต้องพูดตัดบทยุติการโต้เถียงของทั้ง 2 คนว่า ” พอแล้ว มีอะไรไปเถียงกันข้างนอก นี่ขนาดผมนั่งอยู่ตรงนี้นะเนี่ย” ทั้งคู่จึงหยุดโต้เถียงกัน แต่มนัญญาได้ลุกเดินออกจากห้องประชุมทันที ทั้งที่ยังประชุมครม.ไม่จบ
ต่อมามนัญญาได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เหตุโต้เถียงหลังการประชุมครม. ความว่า “ไม่ได้ติดใจอะไร หญิงชายเท่าเทียมกันอยู่แล้วค่ะ” พร้อมกับระบุอีกว่า “วันนี้ประชุม ครม. มีคำถามที่ถามในมติ ครม. ถามกลับผู้ชายคนหนึ่ง ตอบกลับมาใช้คำว่า “เอามัน” ถามกลับไปว่า “เอามัน” หมายถึงอะไร ตอบกลับมาว่า “ก็เอามันคนที่ถาม” ไม่ได้ติดใจคำนี้ แต่งงมาก เกิดมาไม่เคยได้ยิน ช่วยหาคำตอบให้หน่อยคะ …” ส่วนคู่กรณีอย่างวราวุธออกมาเปิดเผยปมปัญหาว่า ” เป็นเรื่องนิดหน่อย ที่มองต่างมุมกัน ไม่มีอะไร เพราะท่านมนัญญามองอีกแบบ แต่ตนทำอีกแบบ ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนอาวุโสน้อยกว่าก็ไม่ควรอยู่แล้วที่จะไปเถียงกันแบบนั้น” วานนี้ประเด็นเจ๊แหม่มขบเหลี่ยมแผดเสียงใส่เสี่ยท็อปเลยเป็นพาดหัวตัวไม้ขึ้นหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ทีวีทุกช่องก็เอามาเล่าข่าวใส่สีตีไข่กันสนุก เพราะเป็นสีสันการเมืองที่เห็นไม่บ่อยในรัฐบาลชุดนี้
เส้นทางการเมืองของมนัญญาต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เกิด 7 ส.ค.2505 ปัจจุบันอายุ 59 ปี เป็นน้องสาวแท้ๆของชาดา เจ้าพ่ออุทัยธานี จบ ป.ตรี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และ คณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อดีตเคยเป็นนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ก่อนผันตัวมาเล่นการเมืองระดับชาติในนามพรรคภูมิใจไทย 10 ก.ค.2562 ผงาดขึ้นชั้นเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ ดูแลรับผิดชอบกรมวิชาการเกษตร บุคคลิกเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ตรงๆแรงๆ ไม่ยอมใคร ก่อนหน้านี้หลังรับตำแหน่งใหม่ๆ ช่วงปลายปี 2562 มนัญญาก็เคยมีข่าวใหญ่โตเรื่องงัดข้อนโยบายบวกกับ “เสี่ยสุริยะ” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตรแห่งพรรคพลังประชารัฐมาแล้ว ในเรื่องการห้ามใช้สารเคมี 3 ตัว “พาราควอต -ไกลโฟเซต- คลอร์ไพริฟอส” ในภาคการเกษตรของประเทศไทยมาแล้ว ที่มนัญญาค้านหัวชนฝาขอให้ยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายทั้ง 3 ตัวในประเทศไทย เพราะเสี่ยงทำให้เด็กไทย 3.5 แสนคน มีไอคิวต่ำ โง่ และ อาจพิการ ขณะที่ฝ่ายสุริยะอยากให้ชะลอการแบนออกไปอีก 6 เดือน อ้างว่าเพื่อให้เกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องได้เตรียมตัวรับมือและมีเวลาปรับตัว ตอนนั้นเจ๊แหม่มสายบวกก็ฟาดกันมายกนึงแล้วกับสุริยะ
ถัดจากนั้นมาเมื่อปีที่แล้ว ระหว่างการประชุมครม. 30 ส.ค.2564 ที่ตอนนั้นโควิด-19 กำลังระบาดหนัก พล.อ.ประยุทธ์ เลยต้องประชุมครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ตอนนั้น “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.ในขณะนั้น) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ได้รายงานมาตรการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 1 ก.ย.2564 โดยหนึ่งในนั้นคือมาตรการผ่อนคลายให้ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม หรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยอาจจะต้องมีการนัดหมายและจองคิวไว้ก่อนล่วงหน้า หลังได้ยินพล.อ.ณัฐพลเสนอแนวทางผ่อนคลายร้านเสริมสวยแบบนั้น มนัญญาถึงกับควันออกหูก่อนทะลุกลางปล้องสวนเลขาฯสมช.กลางครม.ทันทีด้วยน้ำเสียงห้าวตามสไตล์หญิงแกร่งว่า ” เปิดร้านเสริมสวย 1 ชั่วโมงคงไม่พอสำหรับผู้หญิง สระผมก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว จะทำอย่างอื่นได้อย่างไร อยากน้อยขอเวลาเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมง เพราะถึงอย่างไรก็นัดเวลากับร้านล่วงหน้าอยู่แล้ว” งานนี้ถึงกับทำให้พล.อ.ประยุทธ์ฉุนกึกถึงกับพูดออกมาว่า “ดุผมทำไมเนี้ย ผมไม่ใช่ผู้หญิงจะไปรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร” สุดท้ายปลายทางพล.อ.ณัฐพลก็ต้องไปขยายเวลาเปิดร้านเสริมสวยของผู้หญิงเป็น 2 ชม.ต่อการนัดหมายลูกค้า 1 คน
ล่าสุดสดๆร้อนๆ ในช่วงที่มีคดีดาราสาวแตงโมกำลังดังๆ ปรากฎว่ามีการให้สัมภาษณ์ของ “เสี่ยอ่าง” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พาดพิงว่ามีนักการเมืองชื่อย่อ อักษร ช.ช้าง เป็นคนให้ข้อแนะนำกับ “ปอ” ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หนึ่งในคนที่อยู่บนเรือ หนำซ้ำมีการเอารูปชาดาที่ไปร่วมงานบวชลูกชาย เก่ง การุณ โหสกุล ส.ส.คนดังเขตหลักสี่ ดอนเมือง เผอิญเจอกับปอแล้วมีการพูดคุยกันมาจับประเด็นว่าอาจเป็นนักการเมือง ช. ที่ชูวิทย์พูดถึง งานนี้เลยไปกันใหญ่เพราะมีการไปเหมารวมตีความว่านักการเมืองที่ช่วยปออักษรย่อ ช. ก็คือชาดา เท่านั้นแหละมนัญญาเลยต้องออกโรงมาปกป้องพี่ชายสุดที่รัก ท้าคนที่ออกมาพาดพิงให้พูดตรงๆ ” ชื่อ ช.มีตั้งเยอะแยะ ถ้ามีหลักฐานก็เอามา ลองพูดมา เชื่อว่าพี่ชายไม่ได้มีส่วนไปรู้จักกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ไม่มีทาง พี่ชายไม่มีทางไปยุ่งกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว” เจ๊แหม่มออกมาฟาดงวงฟาดงากับคนที่เอาข่าวเรื่องช.ไปปูดแล้วโยงเข้าพี่ชาย แถมขู่ทั้งทนายหิวแสง ทั้งนักการเมืองหิวข่าว ถ้าขืนยังพูดมั่วซั่วอีกเจอกันแน่ ก่อนที่ล่าสุดก็มามีข่าวฟาดปากกับเสี่ยท็อปในครม.เรื่องถุงพลาสติก ปะ ฉะ ดะ กันชนิดนายกฯตกใจต้องทำเสียงแข็งห้ามทัพ เพราะมาตีกันแบบนี้มันไม่งาม เรื่องไม่น่าเป็นเรื่องก็กลายเป็นเรื่องได้ ไม่รู้ว่ามนัญญากับวราวุธที่อะไรในใจกันหรือป่าว เรื่องงาน เรื่องพรรค หรือเรื่องการเมือง แต่ล่าสุด “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยต้องออกโรงมาเคลียร์ทุกอย่างสงบคุยกันจบแล้ว
///////////////