No data was found

ผบก.ปทส. แจงคดี “แม่ธนาธร” รุกป่าสงวนกว่า 2 พันไร่ ไม่ล่าช้า เร่งรวบรวมข้อมูล

กดติดตาม TOP NEWS

จากกรณีกรมที่ดิน มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และบุตรอีก 2 คน คือ ชนาพรรณ และธนาธร หลังตรวจสอบพบว่าเป็นที่ป่าไม้ถาวร โดยเอกสารสิทธิที่ดิน ออกตั้งแต่ปี 2521 ที่ผ่านมานางสมพร ได้ออกมาชี้แจงว่าการถือครองดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเซ็นรับรองถูกต้องทุกอย่าง ต่อมาในปี 2533 ได้รับการแนะนำจากอดีตนักการเมืองชื่อดัง ให้มาซื้อที่ดินจากนักธุรกิจใหญ่ เจ้าของบริษัทเอกชนชื่อดัง เมื่อผู้แนะนำให้ซื้อเป็นคนที่น่าเชื่อถือ จึงไม่คิดว่าที่ดินดังกล่าวจะผิดกฎหมาย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความคืบหน้ากับ พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการเปิดเผยถึงแนวทางการสอบสวนว่าขณะนี้ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการส่งสำนวนไปที่จังหวัดราชบุรีแล้ว กรมป่าไม้มีการยื่นคำร้องเพิ่มเติม

ด้านสำนักอัยการจังหวัดราชบุรี มีการทำหนังสือขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น คือ สอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางปทส.ได้ดำเนินการแล้ว ประเด็นที่สอง ในส่วนของที่ดินที่มีการเพิกถอนจำนวน 59 แปลง เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่าที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนจริง เป็นที่ดินที่ห้ามออกเอกสารสิทธิ์ แต่ในกรณีนี้ได้มีการออกเอกสารสิทธิ์ไปแล้วเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากอยู่ในเขตป่าต้องให้มีการเพิกถอนทั้ง 59 แปลงหรือไม่ ส่วนแปลงที่ 60 ที่หลายฝ่ายรับทราบเข้าใจตรงกันว่า ครึ่งหนึ่งของแปลงรุกล้ำเขตป่าสงวน หรือ เกินเส้นเขตที่กำหนด กรมที่ดินต้องมีการแก้ไขรูปแปลง ตัดที่ดินในเขตป่าสงวนออกไป จากนั้นต้องปรับตามสภาพที่ดินเดิมให้ครอบครัวธนาธร มีสิทธิ์ครอบครองในส่วนที่เหลือ

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ผบก.ปทส. ยังกล่าวอีกว่า ระหว่างนี้รอคำสั่งจากกรมที่ดินแจ้งมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะในส่วนที่ดินได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อขอให้ส่งคำสั่งแล้ว ซึ่งหลังจากได้รับข้อมูลทั้งจากกรมที่ดิน และกรมป่าไม้ ปทส. จะเดินหน้าตามขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนส่งกลับไปให้อัยการ เพื่อพิจารณาในความเห็นที่ส่งสำนวนต่อไป

สำหรับที่ดินของธนาธรครอบครอง จำนวน 1 แปลง เป็น น.ส.3 ก. เลขที่ 158 ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เนื้อที่ 43 ไร่ 3 งาน ออกเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2521 ในชื่อนายอุดม กิตติอุดมพานิช จากนั้นจดทะเบียนเปลี่ยนมือ 3 ครั้ง คือวันที่ 12 ก.ย. 2528 จดทะเบียนขายให้แก่ บริษัท ไร่อ้อยมิตรผล จำกัด วันที่ 13 ธ.ค.2528 บริษัท ไร่อ้อยมิตรผล จำกัด ขายต่อให้ นายสาโรจน์ วสุวานิช รวม 2 แปลง (รวมกับแปลงอื่นอีก 1 แปลง เป็น 2 แปลง) และวันที่ 23 พ.ค.2543 นายสาโรจน์ จดทะเบียนขาย รวม 2 แปลง ให้แก่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ครอบครองคนสุดท้าย

ซึ่งปกติแล้ว ผู้ใดที่ครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ประกาศไว้ชัดว่าป่าสงวนแห่งชาติ คือ ป่าที่ประกาศไว้เพื่อสงวนและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีหลักเขตและป้ายเครื่องหมายเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยติดประกาศไว้ที่อำเภอ กิ่งอำเภอ และที่เปิดเผยในหมู่บ้าน ต้องห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ ใครฝ่าฝืนมีบทลงโทษ “จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท” อันนี้มาจากพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 ซึ่งถือว่ามีความผิดต้องโทษจำคุก

เพราะตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 จะมีบทกำหนดโทษ ตามมาตรา 31 ไว้ว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 50,000 บาท ในกรณีความผิดตามมาตรานี้ ถ้าได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน25 ไร่ ผู้กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 150,000 บาท

เพราะสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นทรัพย์สินของแผ่นดินที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์อันร่วมกัน ไม่สามารถที่จะโอนให้แก่กันได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะหรือพระราชกฤษฎีกา การที่ผู้ซื้อและผู้ขายทำสัญญาซื้อขายที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ถือว่า “เป็นโมฆะ”ซึ่งในทางกฎหมายและคดีความ การครอบครองที่ดิน 2,111 ไร่ ของ ครอบครัว จึงรุ่งเรืองกิจ ถือว่าติดกับดับของกฎหมายว่าด้วยเรื่องการครอบครองเอกสารสิทธิ์โฉนดไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นำ 4 ประกอบการรับกำจัดของเสียรายใหญ่ สำรวจกากสารเคมีในโกดังที่ถูกไฟไหม้ของโรงงานวินโพรเสส จ.ระยอง
ตม.ชลบุรี ปิดล้อมตรวจค้นแหล่งที่พักต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง หนีภัยสงคราม
"สรพงศ์" นำตรวจทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ เชื่อมรถไฟฟ้าชมพู-ม่วง เสร็จพร้อมใช้แล้ว
เดือดร้อน ! ผู้รับเหมาทิ้งงานก่อสร้างถนน ทำชาวบ้านเดินทางลำบากหวั่นเกิดอุบัติเหตุ
“รทสช.” ขออย่าโยงปม “บุ้ง” เสียชีวิต เหมารวมต้องนิรโทษฯคดี 112 ซัดหาคนบงการ ยุยงคนทำผิดกม.
ครอบครัวสุดเศร้า รอรับศพ "ลูกชาย" แรงงานไทยในอิสราเอล หลังถูกจับเป็นตัวประกัน
"ศปปส." บุกสภาฯ ยื่นสอบจริยธรรม "โรม" ค้านสุดตัวนิรโทษฯ 112
เตรียมรับ "Golden Boy" ประติมากรรมสำริด กลับคืนสู่ไทย 21 พ.ค.นี้
"ศุภมาส" สื่อเวทีนานาชาติ เดินหน้านโยบาย "อว. For EV" นำไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้า
"พิชิต" แนะสรุปบทเรียนปลุกปั่นเด็กสุดโต่ง เกินควบคุม ต้องมีคนรับผิดชอบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น