ข่าวที่น่าสนใจ
โดยเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ธนาคารกลางเมียนมา (CBM) ประกาศว่าผู้ที่อาศัยทุกคนจะต้องขายรายได้ของตนเองที่ได้รับเป็นสกุลเงินต่างประเทศ ณ เคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตภายในหนึ่งวันทำงานหลังจากรับเงิน โดยจะมีการประกาศเงื่อนไขที่ได้รับการยกเว้นในภายหลัง
แถลงการณ์จากธนาคารฯ เมื่อวันอาทิตย์ (3 เมษายน) ระบุว่าการโอนเงินตราต่างประเทศออกนอก จะต้องดำเนินการผ่านธนาคารที่กำหนด ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ นอกจากนั้นเงินทั้งหมดที่อยู่ในบัญชีสกุลเงินต่างประเทศของ เมียน มา ก่อนวันออกประกาศฉบับข้างต้นนี้จะต้องถูกขายหรือเปลี่ยนเป็นสกุลเงินจ๊าด เมียน มา ณ ธนาคารที่กำหนด โดยประกาศนี้มีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ออก ส่วนผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายภายใต้กฎหมายจัดการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
โดยก่อนหน้านั้น สำนักข่าวซินหัว ก็เคยรายงานเกี่ยวกับประเทศนี้ว่าได้มีการเปิดใช้สกุลเงินต่างประเทศในการซื้อขายบริเวณชายแดนได้ โดยเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (3 มีนาคม) ธนาคารกลาง ประกาศยอมรับการใช้สกุลเงินไทยบาทหรือจ๊าด เมียน มา ชำระเงินโดยตรง สำหรับการค้าบริเวณพรมแดนไทย-เมียน มา
การดำเนินการนี้มีจุดประสงค์ส่งเสริมการค้าทวิภาคี อำนวยความสะดวกแก่การขนส่งสินค้า เกื้อหนุนการชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างสองประเทศ และส่งเสริมสกุลเงินท้องถิ่นภายใต้แนวทางการรวมกลุ่มทางการเงินของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) แถลงการณ์ระบุว่าบรรดาผู้ค้าขายบริเวณพรมแดนไทย-เมียน มา จะได้รับอนุญาตให้เปิดบัญชีสกุลเงินบาท ณ ธนาคารที่กำหนด สถิติของกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า เมียน มา ทำการค้ากับไทยผ่านด่านพรมแดน 7 แห่ง ได้แก่ ท่าขี้เหล็ก เมียวดี เกาะสอง มะริด ทิกิ มุต่อง และ ซิตตเว ตามลำดับ โดยมีเมียวดีเป็นด่านพรมแดนแห่งสำคัญ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : xinhuathai
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
