วันนี้(16 มิ.ย.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า
งานมวลชนไม่หมู
เสียงบ่นของบรรดาคนที่ถูกโรงพยาบาล “เท” เลื่อนนัดฉีดวัคซีน ดังระงมทั่ว สื่อเอามาเล่นจนเปรอะไปหมด ถามว่ามีเทจริงมั้ย จริง แต่ต้องยอมรับนะ ประชาสัมพันธ์ของรัฐที่รณรงค์ว่า วัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนที่ฉีดเร็วที่สุด มันเข้าหู จากคนที่เฉยๆ กลายเป็นคนแห่กันมาเข้าคิวขอฉีดให้เร็ว
ถามใจคนไทย มีมหกรรมอะไรที่
รัฐบาลก่อนๆทำ โดยมีคนมากกว่า 60 ล้านคนเป็นเป้าหมายมีมั้ย ตอบได้ทันที มันไม่มี แต่มหกรรมฉีดวัคซีนงวดนี้ เป้าหมายคือคนไทยทุกคนจะได้ฉีดวัคซีน รวมทั้งคนต่างชาติที่อยู่ในไทยด้วย นี่มันงานยักษ์เลยนะ มหาอำนาจยังทำไม่ได้เลย
ทำงานใหญ่ขนาดนี้ มันต้องมีขลุกขลัก ผิดพลาดกันบ้าง แก้ไขกันไป ต้องให้กำลังใจกัน อย่าเอาแต่ด่ากัน โทษกันไปโทษกันมา สุดท้าย ลุงตู่ขอโทษเอง คนเดียวจบ ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนออกมาขอโทษประชาชนผ่านสื่ออย่างนี้มาก่อนเลย
สิ่งที่ต้องทำด่วนที่สุด คือ การประชาสัมพันธ์ให้คนมั่นใจว่า วัคซีนมีเพียงพอ จัดสรรตามความเร่งด่วนของพื้นที่และคนเป้าหมาย เป้าหมายแรกคือคนสูงอายุ คนที่ทำงานกับประชาชน หลังจากนั้นจึงเป็นประชาชนทั่วไป คนที่โดนเท ต้องได้รับวัคซีนเร็วที่สุด โรงพยาบาลที่ขาดวัคซีนต้องได้รับการเติมเต็ม อย่าทำลายศรัทธาของประชาชน
แต่ประการสำคัญ อย่าให้พรรคการเมือง นักการเมืองใช้นิสัยเก่าๆ อวดพลัง ใช้อภิสิทธิ์ดึงวัคซีนลงพื้นที่ฐานเสียง ฉีดให้มวลชนตัวเองที่ไม่ใช่พื้นที่เป้าหมายที่ศบค.
กำหนดไว้ อย่าทำวัคซีนให้เหมือนเงินงบพัฒนาจังหวัดในอดีต ที่พรรคและนักการเมืองดึงทึ้งไปลงจังหวัดของตัวเอง นิสัยอย่างนี้ต้องเลิก
มิเช่นนั้น จะมีเสียงคน “คอยวัคซีนอยู่” ของอาจารย์แก้วสรร ดังทั่วแผ่นดินแน่นอน
