“อนุทิน”ชี้แจง หลัง กทม.แจ้งเลื่อนการส่งวัคซีน พร้อมฝากถึง รพ.ที่โพสต์ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน

อนุทินย้ำชัด กระทรวงสาธารณสุขไม่กั๊กวัคซีน ส่งต่อให้ตามคำขอแต่ละจังหวัด แต่กรุงเทพมหานครจั่วแผนการจัดฉีดล้มเหลว แล้วโยนความผิดให้สาธารณสุข เผยผู้ว่ากรุงเทพมหานครโทรมารับผิด พร้อมยินดีปรับแผนการฉีดใหม่ และจะทำงานร่วมกับ ศบค. และ สธ.

เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบสิ่งของอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่นายกสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า ได้นำมามอบให้กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งต่อไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19

ต่อมานายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ย้ำว่า การกระจายวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขให้กับกรุงเทพมหานครตามแผน ส่วนปัญหาที่ที่กรุงเทพมหานครแจ้งเลื่อนการส่งวัคซีนให้โรงพยาบาลในสังกัดทั้งรัฐและเอกชน ไม่เกี่ยวกับวัคซีนที่ส่ง แต่เพราะกรุงเทพมหานคร จัดสรรแผนการฉีดวัคซีนที่เป็นกระจุก โดยฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มคนที่ไม่ตรงกับเป้าหมายแผนการฉีดของเดือนมิถุนายน ซึ่งวัคซีนจำนวน 5 แสนโดสที่ส่งให้หากจัดสรรดีๆ ก็จะเพียงพอ และหากดูแผนการจัดสรรของกระทรวงสาธารณสุขที่ส่งให้ตามจังหวัดต่างๆ ก็ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร ทั้งนี้อยากขอให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน อย่าเพิ่งรีบโพสต์ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีน แต่ควรไปถามข้อมูลจากต้นสังกัดที่รับวัคซีนมาจากกรมควบคุมโรค และหากกทม.ไม่สามารถดำเนินการฉีดวัคซีนได้ตามที่กำหนด กระทรวงสาธารณสุขจะรับกลุ่มคนเหล่านี้มาดำเนินการฉีดวัคซีนให้ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ที่อาจจะเกิดจากความผิดพลาดของการลงบันทึก เพราะกทม.ไปเปิดให้ลงทะเบียนผ่านระบบไทยร่วมใจ ซึ่งควรจะต้องถ่ายโอนข้อมูลของระบบหมอพร้อมไปรวมกับไทยร่วมใจ

อีกทั้งเมื่อช่วงเช้าตนเองได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยทางผู้ว่าได้โทรมาปรึกษา และแจ้งว่าจะมีการปรับแผนให้สอดคล้องกับนโยบายของศบค.และจำนวนวัคซีนที่ได้ และหลังจากนี้จะทำงานร่วมกับทั้ง 3 ฝ่ายคือ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก พร้อมกันนี้ในช่วงบ่ายจะหารือกับอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อสำรวจกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง

นอกจากนี้ยังได้พูดถึงแผนการจัดสรรวัคซีน แอสต้าเซนนิก้า ในเดือนมิถึนายนจำนวน 6 ล้านโดส นายอนุทินเผยว่า ขณะนี้สามารถจัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนได้มากกว่า 6 ล้านโดส โดยจะไม่แยกประเภทของวัคซีน เพราะตอนนี้ทุกยี่ห้อสามรถฉีดให้กับประชาชนตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนวัคซีนแอสต้าเซนิก้า 61 ล้านโดสเป็นไปตามแผนการจัดซื้ออยู่แล้ว และพร้อมที่จะเปิดสัญญาจัดซื้ออย่างเปิดเผยตามคำเรียกร้องของส.ส.พรรคฝ่ายค้าน พร้อมทั้งเดินหน้าพูดคุยถึงเรื่องการจัดซื้อวัคซีนแอสต้าเซนนิด้าในช่วงเดือนธันวาคม เพื่อให้ครอบคลุมกับทุกสายพันธุ์

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปานเทพ" เผย "ท็อปนิวส์" ยอดบริจาค ผ่าน "คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" พุ่ง 30 ล้าน ประสานทหารแล้ว นำจัดซื้อโดรน อุปกรณ์ป้องชายแดน พรุ่งนี้นัดรวมตัวฟังศาลรธน.ชี้คำร้องเอาผิดนายกฯ
"รองผู้ว่าฯราชบุรี" ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ ผู้ประกอบการเดินเรือตลาดน้ำดำเนินสะดวก ร่วมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
"บิ๊กกุ้ง" ลั่นหลังเกษียณ ไม่สนใจเล่นการเมือง หากเป็นไปได้เงิน"คณะรวมพลังแผ่นดินฯ" ถ้านำมอบให้ ขอจัดซื้อเป็นสิ่งของบริจาคช่วยทหารชายแเดนดีกว่า
อิสราเอลเสนอยกระดับความสัมพันธ์ซีเรีย-เลบานอน
จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์
เจ้าหน้าที่ผลักดันชายกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองพร้อมขนซิม 200 เบอร์พร้อมเงินแสน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น