No data was found

“โฆษกศาลยุติธรรม” ชี้แจงกระบวนการออกหมายจับ ‘รังสิมันต์ โรม’

กดติดตาม TOP NEWS

สรวิศ สิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม ได้ขี้แจงขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับ 'รังสิมันต์ โรม' ชี้ มีเหตุอันควรเชื่อผู้ต้องหาจะหลบหนีไม่มาตามหมายเรียกตำรวจ

จากกรณีนายรังสิมันต์ โรม ซึ่งถูกพนักงานสอบสวน สน.บางขุนนนท์ แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา (มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดเป็นผู้เสียหาย) ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียล และให้สัมภาษณ์ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกระบวนการยื่นคำขอออกหมายจับและคำสั่งออกหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน

นายสรวิศ สิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม ได้ขี้แจงขั้นตอนกระบวนการพิจารณาคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับว่า เมื่อวันที่ 27 ต.ค.61 พนักงานสอบสวน สน.บางขุนนท์ผู้ร้อง ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายจับ นายรังสิมันต์ ผู้ต้องหา โดยอ้างเหตุผู้ต้องหาไม่พบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก 2 ครั้ง คือ ในวันที่ 15 ต.ค.64 และวันที่ 26 ต.ค.64 โดยศาลอาญาตลิ่งชันดำเนินการไต่สวนผู้ร้องแล้วเห็นว่าในวันดังกล่าวยังไม่มีเหตุออกหมายจับเนื่องจากปรากฎตามรายงานว่าผู้ต้องหาติดประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ระหว่างวันที่ 25- 27 ต.ค.61 จึงมีเหตุผลที่ผู้ต้องหาไม่อาจไปพบพนักงานสอบสวนได้ มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอออกหมายจับ

ต่อมาวันที่ 5 มี.ค.65 พนักงานสอบสวน สน.บางขุนนท์ ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอออกหมายจับเป็นครั้งที่ 2 โดยอ้างเหตุผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ศาลไต่สวนผู้ร้องแล้ว เห็นว่าในขณะที่ออกหมายเรียกยังอยู่ในสมัยประชุมรัฐสภาอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560มาตรา 125 เมื่อผู้ต้องหาไม่ใด้ไปพบผู้ร้องในวันนัด จึงไม่เป็นการขัดหมายเรียก จึงมีคำสั่งไห้ยกคำร้องขอออกหมายจับ

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมาวันที่ 14 มี.ค.65 พนักงานสอบสวน สน.บางขุนนท์ ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอออกหมายจับครั้งที่ 3โดยอ้างเหตุว่าผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกในวันที่ 11 มีนาคม 65 ศาลไต่สวนพยานหลักฐานต่างๆ ประกอบพยานเอกสารคำร้องขอความเป็นธรรมของนายรังสิมันต์ ที่ยื่นต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว นัดให้ฟังมีคำสั่งวันที่ 15 มี.ค.วันที่ 15 มี.ค.65 ศาลอาญาตลิ่งชัน มีคำสั่งให้ออกหมายจับผู้ต้องหา เนื่องจากปรากฏพยานหลักฐานจากการไต่สวนว่า ผู้ร้องยืนยันว่าผู้ร้องได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้จนเสร็จสิ้นแล้วมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายรังสิมันต์ โรม ผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา เสนอผู้บังคับบัญชาแล้ว

ต่อมาผู้บังคับบัญชามีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ผู้ร้องประสงค์จะนำตัว ผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการอันเป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 142 จึงมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2564ให้ไปพบผู้ร้องในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 แต่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ผู้รับมอบอำนาจผู้ต้องหาได้มา แจ้งเหตุขัดข้องว่าผู้ต้องหาติดประชุมพรรคก้าวไกลขอเลื่อนการเข้าพบผู้ร้องเป็นวันที่ 26 ตุลาคม 2564ผู้ร้องจึงได้ออกหมายเรียกผู้ ต้องหาครั้งที่ 2 ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2565 ให้ผู้ต้องหาไปพบผู้ร้องในวันที่ 26 ตุลาคม 2564

ครั้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ผู้รับมอบอำนาจผู้ต้องหาได้มาแจ้งเหตุขัดข้องว่า ผู้ต้องหาติดประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ… ขอเลื่อนวันเข้าพบผู้ร้องออกไปก่อน แต่ผู้ร้องได้แจ้งแก่ผู้รับมอบอำนาจผู้ต้องหาว่าวันนัดวันที่ 26 ตุลาคม 2564 เป็นวันที่ผู้ต้องหาเป็นผู้กำหนดเองจึงขอให้ไปแจ้งผู้ต้องหาให้มาพบผู้ร้องในวันดังกล่าว แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ได้มาตามนัดและตามหมายเยก

ต่อมาผู้ร้องโทรศัพท์ไปหาทนายความของผู้ต้องหาเพื่อให้สอบถามผู้ต้องหาว่าจะมาพบผู้ร้องได้เมื่อไร ทนายความของผู้ต้องหาแจ้งแก่ผู้ร้องว่าผู้ต้องหาตกลงจะมาพบผู้ร้องในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ได้มาตามที่ นัด จนกระทั่งผู้ร้องได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งล่าสุดลงวันที่ 5 มีนาคม 2565ให้ไปพบผู้ร้องในวันที่ 11 มีนาคม 2565 แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ได้มาพบผู้ร้องตามหมายเรียก โดยเพียงแต่ให้ผู้รับมอบ อำนาจมาแจ้งเหตุขัดข้องว่าผู้ต้องหาติดประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ขอเลื่อนวันเข้าพบผู้ร้องเป็นวันที่ 31 มีนาคม 2565โดยได้แนบ หลักฐานสรุปผลการประชุมคณะทำงานการบังคับใช้กฎหมายของฝ่ายปกครองหรือตำรวจครั้งที่ 2 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2565และประกาศคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและ การมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เรื่อง ตั้งคณะทำงานศึกษาการบังคับใช้กฎหมายของ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจโดยมีผู้ต้องหาเป็นหนึ่งในคณะทำงานในตำแหน่งรองประธานคนที่2 เท่านั้น แต่ไม่ปรากฎรายละเอียดที่แสดงว่าผู้ต้องหาติดประชุมในวันที่ 11 มีนาคม 2565 ตามที่กล่าวที่ อ้างแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้ร้องยังได้ตรวจสอบในเว็บไซต์คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ก็ไม่พบว่ามีการนัดประชุมในวันที่ 11 มีนาคม 65ศาลจึงเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างของผู้ต้องหาที่ไม่มาพบผู้ร้องในวันที่ 11 มี.ค.65 ตามหมายเรียกโดยอ้างเหตุว่าติดประชุมไม่อาจรับฟังได้ เนื่องจากไม่ปรากฎรายละเอียดที่แสดงว่าผู้ต้องหาติดประชุมในวันที่11 มี.ค.ตามที่กล่าวอ้าง และส่อไปในทางบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่มาตามหมายเรียก ถือว่าเป็นการไม่มาตามหมายเรียกโดยไม่มีข้อแก้ตัวอันควรและให้สันนิษฐานว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี เมื่อได้ความว่าผู้ร้องมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา จึงเป็นกรณีที่มีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดอาญา และมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนีไม่ยอมมาพบผู้ร้องตามหมายเรียก จึงอนุญาตให้ออกหมายจับผู้ต้องหาตามขอและเมื่อจัดการตามหมายจับได้แล้วให้ส่งบันทึกการจับกุมต่อศาลภายใน 7 วัน

วันที่ 17 มี.ค.65 นายรังสิมันต์ ผู้ต้องหา มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีการขอออกหมายจับยื่นถึงอธิบดีผู้พิพากษาตลิ่งชัน ซึ่งอธิบดีผู้พิพากษาฯ พิจารณาทุกประการแล้วเห็นว่าพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอให้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 14 มี.ค.65 ศาลได้ไต่สวนพยานบุคคล พยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งพยานเอกสารคำร้องขอความเป็นธรรม แล้วมีคำสั่งในวันที่ 15 มี.ค.65 ให้ออกหมายจับตามคำขอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เพจดังซัด "สส.จิรัฏฐ์" หายเงียบ หลังตร.ออกหมายเรียกครั้งที่สอง แฉซ้ำโดดประชุมสภาฯเก่ง
"สุรเชษฐ์" แขวะคมนาคม สร้างข่าวลดค่าทางด่วน เบื้องหลังแลกขยายสัมปทานBEM
"รมว.ยุติธรรม" เร่งแก้ปัญหายาเสพติดชายแดนใต้ ภาคประชาชน จำนวน 60 ตำบล 120 คน
เปิดใจครั้งแรก "สาวช้ำรัก" เจ้าของไวรัลกุสุมา สันป่าเหียง ถูกแฟนนอกใจ เจ้าตัวย้ำจำเป็นบทเรียนชีวิต เตรียมมูฟออน
วีซ่าฟรีหนุนคนไทยเที่ยวจีนคึกคัก
อินเดีย ร้อนจัด! ผู้ประกาศข่าวเป็นลมขณะออกอากาศ
ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น เร่งติดตาม น.ช.หนีศาล ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท
"นายกฯ" ขอบคุณ "สมาคมธนาคารไทย" ลดดอกเบี้ยช่วยลูกหนี้เปราะบาง
"พิพัฒน์"ย้ำ 1 พ.ค. ปักธงเดินหน้า ผลักดันขึ้นค่าแรงทั่วปท.เป็น 400 บาท
รองผู้บัญชาการทหารเรือรับการเยี่ยมคำนับจาก พล.ร.ต.Justin Jones , Deputy Chief joint operation (รองผู้บัญชาการหน่วยปฎิบัติการร่วม กองทัพออสเตรเลีย) ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น