เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. – พันโทหญิง นุชระวี แจ่มจำรัส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากนโยบาย พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้กำชับให้หน่วยทหารนำกำลังพล ยุทธโปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และปรับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนให้สะอาดเตรียมรับการเปิดเรียนในวันนี้ โดยในห้วงที่ผ่านมากองทัพบกได้จัดชุดปฏิบัติการล้างสิ่งปนเปื้อนขจัดเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกำลังพลจิตอาสาลงพื้นที่ชุมชน วัด และสถานศึกษา เข้าทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อเตรียมอาคารสถานที่ภายในโรงเรียนให้สะอาด ถูกสุขอนามัย
ตลอดจนร่วมบูรณาการกับทางโรงเรียน, ชุมชน, สำนักงานเขต, เทศบาล และ อบต. ดำเนินกิจกรรม Big cleaning ทำความสะอาดพร้อมปรับภูมิทัศน์ของโรงเรียนควบคู่กันไปด้วย ทำให้สถานที่ภายในโรงเรียนโดยเฉพาะจุดที่ต้องมีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ห้องเรียน, โรงอาหาร, ห้องสุขา ลานกิจกรรม,สนามเด็กเล่น และพื้นที่ส่วนรวมภายในโรงเรียนให้มีความสะอาดปลอดภัย ลดการสะสมและการแพร่ระบาดของเชื้อโรค เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากร ครูอาจารย์ นักเรียน และผู้ปกครองในการใช้สถานที่ทำการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ม.ค. 64 จนถึงปัจจุบัน ใน 428 พื้นที่ และ 240 โรงเรียนทั่วประเทศ อาทิ กทม., นนทบุรี, นครนายก, ลพบุรี, ราชบุรี, ปราจีนบุรี, นครราชสีมา, ร้อยเอ็ด, พิษณุโลก, ตาก, น่าน, เพชรบูรณ์, เชียงใหม่ เป็นต้นและจะคงให้การสนับสนุนการล้างสิ่งปนเปื้อนและฆ่าเชื้อโรคตามแหล่งชุมชน สถานศึกษาทั่วประเทศต่อไปหากมีการร้องขอ โดยจะมีการกำหนดแผนงานตามห้วงระยะเวลาร่วมกับทางโรงเรียน เพื่อคงมาตรการป้องกันไว้อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย
พันโทหญิง นุชระวี กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันหน่วยทหารทั่วประเทศได้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ โดยได้มีการเตรียมพร้อมด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์สำหรับการเข้าช่วยเหลือประชาชนให้เป็นไปอย่างอย่างรวดเร็วทันท่วงที เพื่อรับมือกับฤดูฝนที่อาจส่งผลให้ประเทศไทยในหลายพื้นที่มีฝนตกชุก อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำท่วมขัง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 1-4 ได้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ ดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2564 ของรัฐบาล ในการเปิดเส้นทางระบายน้ำเพื่อป้องกันการเกิดอุทกภัย พร้อมเตรียมจัดหาแหล่งกักเก็บน้ำรองรับปริมาณน้ำฝนสำหรับให้ประชาชนได้สำรองไว้ใช้ในอนาคตหากฝนทิ้งช่วง
อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว แต่บางพื้นที่ยังคงประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลถิ่นทุรกันดาร อาทิ จ.ลพบุรี,กาญจนบุรี, บุรีรัมย์, สระแก้ว, ลำปาง, พะเยา, ตรัง, สงขลา, พิจิตร, ตาก เป็นต้น หน่วยทหารในพื้นที่ได้จัดกำลังพลจิตอาสาพร้อมรถบรรทุกน้ำ ภายใต้โครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจช่วยภัยแล้ง”อาสาเติมน้ำตามบ้านเรือนและแหล่งชุมชนเพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.63 แจกจ่ายน้ำไปแล้ว 5,424,000 ลิตรใน 34 จังหวัด
สำหรับประชาชนที่ประสบภัยพิบัติจากพายุฤดูร้อนส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายหน่วยทหารได้จัดกำลังพลชุดช่างจิตอาสาพร้อมยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.64 ถึงปัจจุบันซ่อมบ้านแล้วเสร็จ 2,705 หลังใน 24 จังหวัดเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาพักอาศัยและดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขดังเดิม