วันที่ 21 มีนาคม 2565 เวลา คณะพนักงานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานออกลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขณะออกตรวจลาดตระเวนไปถึงบริเวณพิกัด 47P 565576 1378960 บริเวณพื้นที่ป่าซอยทุ่งกระทิง หมู่ที่ 9 บ้านโป่งสำโหรง ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ ได้สังเกตเห็นร่องรอยหยดเลือดหยดเป็นทางจึงได้ร่วมกันสะกดรอยตามเส้นทางของหยดเลือด จนกระทั่งสะกดรอยมาถึงบริเวณพิกัด 47P 565600 1378646 ปรากฏพบบุคคลชาย 1 คนกำลังชำแหละซากสัตว์ป่าอยู่ใต้ต้นไม้ จากนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมีอำนาจและหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และติดตามไปจับกุมตัวชายคนดังกล่าวพร้อมซากสัตว์ป่าที่นำไปทิ้งได้บริเวณพิกัด 47P 565584 1378928 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว จึงได้แจ้งรายงานต่อผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำโดย นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายกษิดิศ จั่นประดับ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ร่วมกันเดินทางเพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ เกิดเหตุ เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณพิกัด 47P 565596 1378892 ป่าซอยทุ่งกระทิง หมู่ที่ 9 บ้านโป่งสำโหรง ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านพักของบุคคลชาย ที่ก่อเหตุดังกล่าวและเป็นบริเวณใกล้เคียงกับที่ชำแหละซากสัตว์ป่า
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่และได้ดำเนินการตรวจสอบซากสัตว์ป่าดังกล่าวว่าเป็นสัตว์ป่าชนิดใด ผลจากการตรวจสอบปรากฏพบว่าเป็นซากอีเก้ง หรือเก้ง หรือ ฟาน (Muntiacus muntjak) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 198 ร่องรอยของซากสัตว์เก้ง ดังกล่าว มีรอยกระสุนปืนทะลุบริเวณต้นขาหลังด้านซ้ายเข้าสู่ด้านในจนทำให้เสียชีวิต คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวไว้ สอบถามชายคนดังกล่าว ทราบชื่อคือนายนิคม อายุ 48 ปี ชาวตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากนั้นตรวจค้นบริเวณโดยรอบของสถานที่เกิดเหตุ ผลจากการตรวจค้นบริเวณโดยรอบโดยละเอียด ปรากฏพบ ปืนลูกซองเดี่ยว ยาว เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก ไม่ปรากฏเลขทะเบียน (ไม่ทราบยี่ห้อ)กระสุนลูกซองเบอร์ 12 บรรจุในรังเพลิง จำนวน 1 นัด กระเป๋าเป้ จำนวน 1 ใบ ข้างในบรรจุกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 6 ลูก , ปลอกกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 ลูก , ตะกั่ว 1 แท่ง , ลูกตะกั่วหัวจีบ 34 ลูก
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ จึงได้สอบถามนายนิคม ว่าอาวุธปืน พร้อมด้วยเครื่องกระสุน ทั้งหมดเป็นของผู้ใด จากการสอบถามของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ นายนิคม ฯ รับว่าอาวุธปืน พร้อมด้วยเครื่องกระสุน ทั้งหมดเป็นของตน ซึ่งตนเป็นผู้นำมาทิ้งไว้เพราะกลัวความผิด ซากสัตว์เก้งที่ชำแหละนั้นตนได้นำอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุน เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพื่อทำการล่าสัตว์ป่า ซึ่งจุดที่ยิงเก้งตัวนี้อยู่ห่างจากบ้านของตนขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งนั่นหมายถึงเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากนั้นเมื่อยิงเก้งจนตายตนจึงได้นำมาชำแหละบริเวณบ้านของตน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ฯ จับกุมในที่สุด
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้ว ซากสัตว์ป่าที่ตรวจพบซึ่งอยู่ในความครอบครองของ นายนิคม ซึ่งคืออีเก้ง หรือเก้ง หรือ ฟาน (Muntiacus muntjak) เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 198 ตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ตามความในมาตรา 116 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว การกระทำดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดของนายนิคม เป็นการกระทำความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ดังนี้
- ฐาน “ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใดๆ” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (3) และมาตรา 43
- ฐาน “เข้าไปดำเนินกิจการใดๆเพื่อหาผลประโยชน์ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19 (6) และมาตรา 44
- ฐาน “นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไปภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (7) และมาตรา 45
- ฐาน “ยิงปืน ทำให้ระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19 (8) และมาตรา 44
- ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด ล่า หรือพยายามล่า สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 12 และมาตรา 89
- ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครอบครองซึ่ง สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 และมาตรา 92
- ผู้ใดกระทำการหรืองดเว้นกระทำไม่ว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมิชอบด้วยกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ผู้นั้นต้องชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 87 มาตรา 88
- ในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพนักงานอัยการยื่นฟ้องคดีอาญา ให้เรียกค่าเสียหายตามมาตรา 87 หรือ มาตรา 88 ไปในคราวเดียวกัน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 107
- ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่”ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7 , 72
พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้จับได้นำตัวนายนิคม พร้อมของกลางและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองพลับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุรพล นาคนคร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. เพชรบุรี