No data was found

เปิดไทม์ไลน์ 3 ธงสำคัญ ก่อนประยุทธ์ตัดสินใจไปต่อหรือพอแค่นี้

กดติดตาม TOP NEWS

1. ผลักดันงบประมาณปี 65 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท ภายใน 29 ส.ค. 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ปลดล็อคระบบเลือกตั้ง กลับไปใช้บัตร 2 ใบ เขต 400 คน ปาตี้ลิสต์ 100 คน ชวนนัดถก 2 สภา 22-23 มิ.ย. หรือ 29-30 มิ.ย. คาดแก้จริง 3 เดือนแล้วเสร็จ 3. เร่งฉีดวัคซีนปูพรม 70 % ให้ได้ 50 ล้านคน สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศภายในสิ้นปีนี้

3 ประเด็นธงหลักสำคัญ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะต้องบริหารจัดการให้แล้วเสร็จ ก่อนจะมาประเมินตัดสินใจว่าจะบริหารประเทศไปต่อจนครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 11มิ.ย.2566 หรือ พอแค่นี้โดยตัดสินใจยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ ทั้ง 3 ประเด็นสำคัญ

 

1. การเร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาทให้เสร็จสมบูรณ์ ภายหลังจากที่ครม.ได้ส่งร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 มาให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. และได้ผ่านการพิจารณาในวาระแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ 2 มิ.ย. ขณะนี้ได้เข้าสู่ขั้นตอนการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาแปรญัตติทั้งในส่วนของส.ส.และส.ว. ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 และ วาระที่ 3 โดยการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 จะต้องทำให้แล้วเสร็จภายใน 105 วัน นับตั้งแต่วันที่รับมา โดยการลงมติวาระ 3 ต้องแล้วเสร็จก่อนวันที่ 29 ส.ค.นี้

2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนหน้าการเลือกตั้ง ปัจจุบันมีกลุ่มการเมืองที่ประกาศเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 แล้ว 3 กลุ่มประกอบด้วย  กลุ่มแรก พรรคพลังประชารัฐ โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมสมาชิกพรรคเคยยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา โดยตั้งเป้าแก้ 5 ประเด็น 13 มาตรา ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพ ประเด็นที่ 2 แก้ไขการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ประเด็นที่ 3 แก้ไขอุปสรรคการทำงานของส.ส.และ ส.ว. ให้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้คล่องตัวขึ้น ประเด็นที่ 4 แก้ไขบทเฉพาะกาล ให้ ส.ส. และ ส.ว. มีอำนาจหน้าที่ ติดตามเร่งรัดการปฏิรูปประเทศเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญสุด คือแก้ไขระบบการเลือกตั้ง มาตรา 83, 85, 86, 90, 91, 92 และ มาตรา 94 ให้การเลือกตั้งส.ส.กลับไปเป็นแบบบัตรสองใบ ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ที่ตรงนี้จะทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ และตัดทางพรรคก้าวไกลไม่ให้ได้เก้าอี้ผู้แทนถล่มทลายเหมือนการเลือกตั้งคราวก่อน

กลุ่มที่สอง พรรคร่วมรัฐบาล ล่าสุดมีการหารือระหว่าง 3 พรรคร่วม คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เตรียมยื่น 6 ร่าง ประกอบด้วย 1.มาตราที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม สิทธิที่ดินทำกิน สิทธิผู้บริโภค และสิทธิชุมชน 2.ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับระบบการเลือกตั้งจะยึดตามรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ให้กลับไปใช้ ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน บัตรลงคะแนน 2 ใบ 3.การเลือกนายกฯต้องมาจากบัญชีพรรคการเมืองที่เสนอชื่อไป 3 ชื่อ หรือ ไม่ก็เลือกจากส.ส. ปิดช่องคนนอกเป็นนายกฯ 4. การแก้ไขมาตรา 256 ว่าด้วยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะใช้เนื้อหาที่รัฐสภาผ่านวาระสอง ที่กำหนดให้ใช้เสียงรับหลักการ ไม่น้อยกว่า 3 ใน 5 และตัดส่วนของเสียง ส.ว. จำนวน 1 ใน 3 ออกไป 5. การตรวจสอบการกระทำผิดจริยธรรมของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยจะปรับบทบาทของประธานรัฐสภาให้ไม่ต้องมีหน้าที่พิจารณา แต่เป็นเพียงคนกลางที่ส่งเรื่องไปยังประธานศาลฎีกา เพราะเกรงว่าหากมีนักการเมืองที่ต้องการใช้ประเด็นนั้นๆ ไปต่อรองเรื่องคดีความ อาจยื่นเรื่องให้รัฐสภาพิจารณาได้ และหากประธานรัฐสภาเป็ฯคนของพรรคการเมืองที่ไม่ซื่อตรงก็อาจเกิดกรณีต่อรองคดีขึ้นได้ 6. การกำหนดให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง

กลุ่มที่สาม พรรคร่วมฝ่ายค้านภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นเตรียมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ 2 ร่าง คือ ร่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านกับร่างของพรรคเพื่อไทย เบื้องต้นประเด็นที่เห็นตรงกันมี 4-5 คือ 1. การตั้งสสร.เพื่อมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2. การลดอำนาจสว.ในการเลือกนายกฯ 3.สิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ต้องปรับปรุงโดยเฉพาะเรื่องผู้ต้องหา เรื่องประกันตัว และ 4. การแก้ไขระบบเลือกตั้งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคเห็นตรงกันคือให้กลับไปใช้บัตร 2 ใบ 5.ยกเลิกรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการยกเลิกอำนาจ คสช. ตั้งธงไว้ว่าวันอังคารหน้า 15 มิ.ย. จะเสนอให้ประธานรัฐสภา

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุเบื้องต้นได้กำหนดวันประชุมร่วม 2 สภา ไว้คร่าวๆ คือ 22-23 มิ.ย. หรือไม่ก็ 29-30 มิ.ย. หรือทั้งสองวัน เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราตามที่พรรคการเมืองเสนอ ทั้งนี้หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราจริงในเดือนมิ.ย.คาดว่าจะใช้เวลา2-3 เดือนในการแก้ไขแล้วเสร็จ

3.การแก้ไขสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้่อโควิด 19 ให้ลดลง โดยเร่งในเรื่องของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วประเทศให้ได้ 70 % ของคนส่วนใหญ่ในประเทศหรือราว 50 ล้านคน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยล่าสุดมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 5,667,058 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิ.ย. 2565 ) พร้อมๆไปกับการนำเข้าวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ก่อนจะจัดหาอีก 50 ล้านโดสมาไว้สำรองไว้สำหรับปีหน้า

ทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าวคือเป้าหมายสำคัญที่พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลต้องบริหารจัดการให้แล้วเสร็จคาดว่าจะเป็นช่วงใกล้ๆปลายปีพอดี จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ถึงจะมาตัดสินใจประเมินสถานการณ์ในตอนนั้นอีกครั้งว่าจะเดินหน้าบริหารบ้านเมืองต่อไปจนครบเทอม 4 ปีสมัย 2 ในช่วงเดือนมิ.ย. 2566 หรือตัดสินใจผ่าทางตันยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในประเทศ

/////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนใช้ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ตรวจสายเคเบิลในพื้นที่แคบ
“บิ๊กต่อ” ตั้งทนายฟ้องกลับ “ทนายตั้ม” หมิ่นประมาท ปมแฉเอี่ยวส่วยเว็บพนัน เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน
สหรัฐ สามปธน. เดโมแครตระดมทุนครั้งใหญ่ช่วยไบเดน
สุดอั้น จ่อปรับขึ้น "ดีเซล" ราคาหน้าปั๊มทะลุ 30 บาท มีผล 1เม.ย.67
นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ดีลับยืมมือ "แดง" พิฆาต "ส้ม" ไม่จริง เหตุ "ก้าวไกล" เน่าในอยู่แล้ว
"รถไฟฟ้าสีเหลือง" ผดส.ทยอยใช้บริการปกติ ชื่นชมพนง.ดูแลดีช่วงขัดข้อง ฝากตรวจสอบอย่าเกิดซ้ำ
ปะทะกันแล้ว ก็อดซิลล่า VS คิงคอง ที่สวนนงนุชพัทยา
ซัด "ก้าวไกล" ปมขึ้นค่าแรงจ้องหาเสียงตีกินการเมือง ชำแหละกึ๋นนโยบายใครทำคนตกงานระนาว
NBM แจงเทศกิจ ร้องวัสดุตกใส่รถยนต์ ยันไม่ใช่ชิ้นส่วน"รถไฟฟ้าสีชมพู"
"นายกฯ"เป็นประธานพิธีลงนาม "โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ" เดินหน้าผลักดันกีฬาไทยสู่ระดับโลก ดูแลบุคลากรสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น