จากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกต้องปิดพรมแดน ใช้มาตรการคุมเข้ม มาตรการฉุกเฉิน และอีกสารพัดวิธี เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด หลายประเทศทำได้ดี ช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเกือบปกติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งประเด็นเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยหลักในการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2021
ผลการสำรวจและจัดอันดับของศูนย์วิจัย ดิ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (The Economist Intelligence Unit – EIU) พบว่าเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกในปีนี้ได้แก่ เมืองโอ๊คแลนด์ ของนิวซีแลนด์ เนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้ติดเชื้อลดต่ำลง และส่งผลให้มีการยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ต่างจากประเทศอื่น ๆ โดยขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 6 ในปีที่แล้ว
อันดับสองคือ นครโอซากาของญี่ปุ่น ตามมาด้วยเมืองแอดิเลด ของออสเตรเลีย ส่วนกรุงเวลลิงตันของนิวซีแลนด์ และกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ครองอันดับ 4 ร่วมกัน ตามมาด้วยเมืองเพิร์ธ ของออสเตรเลีย, เมืองซูริก ของสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ และเมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ครองอันดับ 8 ร่วมกัน และอันดับ 10 คือเมืองบริสเบน ของออสเตรเลีย
โดย 6 เมือง ใน 10 เมืองที่ได้รับการจับอันดับว่าน่าอยู่ที่สุดในโลก อยู่ในนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ซึ่งมีการควบคุมพรมแดนอย่างเข้มงวด ทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ค่อนข้างปกติ ขณะที่หลายประเทศในยุโรปต่างหลุดโผ Top 10 รวมทั้งกรุงเวียนนาของออสเตรีย ซึ่งเคยอยู่อันดับ 1 ในปี 2018 และ 2019 กลับร่วงลงมาอยู่อันดับ 12 เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก เช่นเดียวกับแคนาดาที่เคยมี 3 เมือง คือแคลการี่, แวนคูเวอร์และโตรอนโต้ ที่อยู่อันดับต้นๆเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ก็ร่วงหลุดจากอันดับ Top 10 ทั้งหมด เหลือเพียงสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นชาติยุโรปชาติเดียวที่มีสองเมืองติดอันดับ