นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.2564 ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-จีน และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 6 รวมถึงได้หารือทวิภาคีกับนายหวัง อี้ ด้วย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ ได้ทบทวนพัฒนาการและความสำเร็จของความสัมพันธ์อาเซียน-จีนในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และการฟื้นฟูหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ทั้งนี้ อาเซียนชื่นชมจีนที่สนับสนุนอาเซียนในการรับมือโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สมทบกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 และการสนับสนุนวัคซีนแก่ประเทศต่าง ๆ
นายธานี กล่าวว่า ขณะที่การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (เอ็มแอลซี) ครั้งที่ 6 ซึ่งประกอบด้วยไทย กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา และจีน ที่ประชุมได้หารือในหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงการเน้นย้ำความร่วมมือด้านสาธารณสุขและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤติโรคโควิด-19 และการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วนการหารือทวิภาคีระหว่างนายดอน กับนายหวัง อี้ ได้พูดคุยกันถึงการส่งเสริมความร่วมมือ 5 ด้าน คือ 1.ด้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งไทยได้ขอให้จีนสนับสนุนการจัดหาวัคซีน เพื่อให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ประชาชนร้อยละ 70 ทั้งวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม รวมถึงวัคซีนตัวใหม่ “แคนซิโน” จากบริษัท แคนซิโน ไบโอโลจิกส์ อิงค์ ซึ่งเมื่อจีนพัฒนาสำเร็จในอนาคตได้แล้ว ฝ่ายจีนพร้อมนำมาสนับสนุนให้ไทย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า 2.ความเชื่อมโยง ฝ่ายไทยและจีนย้ำเจตจำนงที่จะร่วมกันส่งเสริมความเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเขตอ่าวกวางตุ้ง – ฮ่องกง -มาเก๊า (จีบีเอ) และความเชื่อมโยงระหว่างโครงการรถไฟไทย – จีน กับรถไฟจีน-ลาว 3.การพัฒนาที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศของทั้ง 2 ฝ่าย 4.การฟื้นฟูการเดินทางในช่วงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ซึ่งไทยขอให้จีนพิจารณาคำขอที่ให้นักศึกษาไทยเดินทางกลับไปศึกษาต่อในจีน และให้สายการบินของไทยสามารถกลับไปทำการบินเชิงพาณิชย์ในจีนได้ในโอกาสแรก 5.ความร่วมมือในภูมิภาคและอนุภูมิภาค ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ของไทยในปี 2564 และทั้ง 2 ฝ่ายสนับสนุนให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (RCEP) มีผลใช้บังคับโดยเร็ว