กรณีนัดพรรคเล็กหารือของฝ่ายรัฐบาลดูจะกลายเป็นความชุลมุนที่สะท้อนให้เห็นเอกภาพในรัฐบาลเรือแป๊ะชุดนี้ได้เป็นอย่างดีว่าคงไม่มีทางที่จะเป็นเนื้อเดียวกันได้ โดยเฉพาะระหว่าง 2 ผู้นำรัฐบาลที่เป็นพี่น้อง 2 ป. เป็นบูรพาพยัคฆ์สายเลือดเดียวกันอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำประเทศ กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ทุกคนทราบกันดีว่าเป็น ผู้จัดการรัฐบาล ต่างฝ่ายต่างก็มีบทบาทสำคัญในการประคับประคองรัฐบาลด้วยกันทั้งคู่ พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศขับเคลื่อนรัฐบาล พล.อ.ประวิตรคุมเกมส์ในสภาบริหารงานการเมือง เล่นกันคนละบทบาทรับผิดชอบกันคนละหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมาต่างฝ่ายต่างก็เกื้อกูลช่วยเหลือกัน แต่มาพักหลังอย่างที่คอการเมืองทุกคนทราบ มีหลายครั้งที่ 2 พี่น้องถูกสังคมและคนนอกมองว่าอ่านกันคนละโน้ตร้องกันคนละคีย์ จากประสานประโยชน์ในช่วงแรกกลับตาลปัตรกลายเป็นการประสานงาเสียมากกว่าในช่วงหลังๆ โดยเฉพาะท่าทีของลุงป้อมนั้นต้องบอกว่าเปลี่ยนไปมากหลังจากที่เกิดการปันใจไปให้กับ “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย ถึงขนาดถูกคนส่วนใหญ่มองว่าถือหางร.อ.ธรรมนัสหลายเรื่องหลายกรณีจนทำให้งานใหญ่เสีย หลายครั้งทำให้น้องตู่ต้องพบกับความยากลำบากในการทำงานบริหารประเทศ เกือบปีที่ผ่านมาก็เป็นข่าวใหญ่โตยอ่างที่ทุกคนรับรู้กันมาแล้ว
และถึงแม้จะมีการแก้ไขปัญหาตัดก๊วนร.อ.ธรรมนัสพ้นจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่เป็นเสี้ยนหนามของพล.อ.ประยุทธ์จนเป็นปัญหาขึ้นมาอีก แต่ดูเหมือนถึงจะถูกขับถึงจะถูกเขี่ยออกจากพรรคแกนนำรัฐบาล แต่ร.อ.ธรรมนัสก็ยังรักษาทรงป่วนนายกฯกวนรัฐบาลไม่มีที่สิ้นสุด ศุกร์ 11 มี.ค.2565 ที่ผ่านมาก็ก่อวีรกรรมไปขอเป็นเจ้าภาพร่วมกินข้าวกับพรรคเล็ก ฉากหน้าก็บอกว่าสนิทชิดเชื้อรู้จักกันมานาน คุยโวอวดผลงานว่าเป็นคนดึง 20 เสียงพรรคเล็กค้ำบัลลังก์ให้พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯช่วงตั้งรัฐบาลปี 2562 ฉากหลังคนตามการเมืองก็พอมองออกว่าระยะยาวผู้กองแป้งหวังรวบหัวรวบหางผนึกพรรคเล็กเข้าพรรคเศรษฐกิจไทย หวังผลเพิ่มน้ำหนักต่อรองทางการเมืองในอนาคต จาก 18 เสียงตอนนี้ ถ้าได้พรรคเล็กอีกสัก 10 คนมาสนับสนุน อนาคตก็คงอัพเลเวลเป็นพรรคขนาดกลางต่อรองทางการเมืองกับนายกฯหรือฝ่ายค้านในเรื่องต่างๆได้มีน้ำหนักมีราคามากขึ้น
ผลของการไปโผล่กินข้าวกับพรรคเล็กของร.อ.ธรรมนัส ทำให้เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมานายกฯต้องแก้เกมส์สั่้งการให้ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน สายตรงไทยคู่ฟ้าต่อสายหาพรรคเล็ก ร่นวันขยับเวลากินข้าวมาเร็วขึ้นจากปลายเดือนมี.ค. ขยับมาเป็นวันพฤหัสบดีที่ 17 มี.ค.2565 เพราะเกรงจะไม่ทันการถึงขั้่นอาจเสียการใหญ่ เพราะระหว่างนายกฯกับส.ส.พรรคเล็กหลายคนก็มีเรื่องน้อยใจกันอยู่ ยิ่งทั้งหมดไปเจอร.อ.ธรรมนัสมาอีก ก็ไม่รู้ว่างานนี้จะถูกวางยาอะไรอีก เพราะฉะนั้นบิ๊กตู่จึงต้องสั่งคนส่งเทียบเชิญพรรคเล็กมาเคลียร์ใจกัน แทนที่เรื่องนี้จะได้รับการสนับสนุนจาก 3 ป. เป็นข่าวดีด้านบวกของรัฐบาล วานนี้ช่วงบ่ายกลับมาข่าวหลุดออกมาว่าบิ๊กป้อมไม่พอใจนัดหมายกินข้าวของนายกฯกับพรรคเล็ก ถึงขนาดมีข่าวเท็จจริงไม่รู้ว่าให้คนใกล้ชิดต่อสายถึงส.ส.พรรคเล็ก ใหยกเลิกนัดหมายที่วางไว้กับนายกฯ แค่นั้นยังไม่พอ งานนี้ยังปาดหน้านายกฯเพราะสั่งเรียกพรรคเล็กรวมทั้งก๊วนผู้กองแป้งบางคน มาถกด่วน ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภายใน ร.1 รอ. ที่เป็นเซฟเฮ้าส์ แค่นั้นไม่พอเจ้าตัวยังปล่อยทีเด็ดที่ถูกระบุออกมาเป็นรายงานข่าวหลายเรื่อง ทั้งการขอให้พรรคเล็กช่วยกันสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป ขอร้องให้ช่วยกันประคับประคองรัฐบาลให้ไปตลอดรอดฝั่งจนครบเทอม เผยว่าคงไม่มีการปรับครม.แล้วเพราะกลัวการแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล รับปากว่าจะดูแลส.ส.พรรคเล็กทุกคนหลังหลายคนสะท้อนแสดงความกังวลว่าจะถูกร.อ.ธรรมนัสลอยแพ
แต่ที่เด็ดสุดวานนี้น่าจะเป็นมุกที่พล.อ.ประวิตรเล่นปล่อยของ เปิดประเด็นว่ารัฐบาลจะยุบสภาแน่นอนหลังจัดประชุมเอเปครอบผู้นำแล้วเสร็จราวกลางเดือนพ.ย. ถัดจากนั้นไม่นานยุบสภาแน่นอน ก่อนจะจัดการเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย งานนี้น้องจากจะสามารถลดกระแสไม่พอใจนายกฯลดแรงต้านรัฐบาลจากพรรคเล็กได้แล้ว บิ๊กป้อมยังช่วยถอดสลักลดแรงกดดันทางการเมืองให้กับพล.อ.ประยุทธ์ไปด้วย โดยการระบุว่าขัดงานเอเปกจบยุบสภาแน่นอน ไม่ว่าวันนี้คนไทยจะมองพล.อ.ประวิตรยังไงแต่การออกมาพูดเรื่องยุบสภาปลายปีพร้อมจัดเลือกตั้งต้นปีหน้า ก็ทำให้ลดกระแสลดความร้อนแรงทางการเมืองลงไปได้ระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็ถอดสลักพล.อ.ประยุทธ์เรื่องรากงอกอยู่ยาวหวงอำนาจไม่ยอมเลือกตั้งไปได้หน่อยนึง อย่างน้อยก่อนการดินเนอร์ 17 มี.ค.2565 ณ คลับเฮ้าส์ สโมสรราชพฤกษ์ บรรยากาศระหว่างผู้นำกับพรรคเล็กก็น่าจะชื่นมื่นไม่มึนตึงจนเกินไป แม้นายกฯจะต้องแลกมาด้วยการให้พล.อ.ประวิตรเป็นคนชิงธงนำทางการเมืองอีกครั้งนึง
แต่รอบนี้มองแบบกลางๆ ในสถานการณ์ต้องพึ่งพาอาศัยกันไปอีกนาน พล.อ.ประยุทธ์น่าจะได้ประโยชน์จากการที่พล.อ.ประวิตรทำหน้าที่เป็นแนวกันชนกับพรรคเล็กให้ หนำซ้ำยังคอยประสานประโยชน์กับก๊วนร.อ.ธรรมนัสพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ให้แตกหักกันไปเลย โดยที่นายกฯไม่ต้องลงมาปะทะลงมาเล่นเอง ไม่ดีกว่าหรือหากรัฐบาลยังสามารถต่อสายยังพอมีเยื่อใยกับมุ้งผู้กองแป้งที่หากบวกกับพรรคเล็กขั้วตรงข้ามนายกฯแล้วมีเกือบ 30 เสียงได้อยู่ โดยไม่ถูกดึงสลับขั้วไปอยู่กับฝ่ายค้านที่ตอนนี้มีอยู่ 208 เสียง ถ้าได้ 30 คนนี้ไปบวกด้วยก็จะเท่ากับกึ่งหนึ่งของสภา 238 คน ปิดสวิทต์บิ๊กตู่ชัตดาวน์รัฐบาลทันที หากยุทธศาสตร์รัฐบาลเป้าหมายของพล.อ.ประยุทธ์คือการอยู่ยาวจนถึงเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปคปลายปีนี้ การประสานประโยชน์กับตัวแปร 30 เสียงที่ว่านี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแม้จะต้องลุ้นเสี่ยงกับความพยศและเล่ห์เหลี่ยมของร.อ.ธรรมนัสแต่ก็ยังดีกว่าแตกหักกันไปเลยในวันนี้ เกมส์นี้ไม่รู้บิ๊กป้อมคิดยังไงหวังหักเหลี่ยมนายกฯ หรือ ลับ ลวง พราง 17 มี.ค.นี้จับตาพล.อ.ประยุทธ์ถกพรรคเล็กแบบชวนพรรคใหญ่มาร่วมวงด้วย จบวันนั้นคงเห็นหน้าเห็นหลังได้ชัดเจนว่ารัฐบาลจะไปต่อแบบไหนอย่างไร
///////////////////
