ประยุทธ์รุกคืบกระชับอำนาจ

นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลดินเนอร์เมื่อค่ำสโมสรราชพฤกษ์ ขันน็อตการทำงานวางแผนเดินหน้ารัฐบาล เย็บปากพวกปล่อยข่าวฝันไกลใฝ่สูง "วงแตก-ยุบสภา" ลุ้นรัฐนาวาเรือแป๊ะฝ่ามรสุมบททดสอบสำคัญ อภิปรายไม่ไว้วางใจ แก้กฎหมายลูก 2 ฉบับ งบประมาณปี66 ตีความนายกฯ 8 ปี ท่ามกลางส.ส.เสียงปริ่มน้ำ

ย้อนอดีตกลับไปก่อนหน้านี้ปัญหาเรื่องรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากกความไม่เป็นเอกภาพในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีต้นเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่าง “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จนนำไปสู่การขับ 21 ส.ส.ก๊วนร.อ.ธรรมนัสพ้นจากพรรคพลังประชารัฐ ส่งผลให้เสียงของส.ส.รัฐบาลจาดเดิมที่มีอยู่ 267 คน ลดน้อยถอยลงไปอีกคงเหลือส.ส.ซีกรัฐบาลเมื่อบวกกับ 3 คนที่แม้ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐแต่ยังไปซบพรรคภูมิใจไทยในปัจจุบันทั้งสิ้น 249 คนเท่านั้น ขณะที่ก๊วนร.อ.ธรรมนัส 18 คน ประกาศตัวเป็นพรรคอิสระไม่ขึ้นกับฝ่ายใด แต่ตีไว้ก่อนเลยจากพฤติกรรมของร.อ.ธรรมนัสหนักไปทางฝ่ายค้านสวนรัฐบาลทุกเรื่อง

ความจริงนอกเหนือจากปัญหาก๊วนร.อ.ธรรมนัสที่ถูกขับออกไปจนทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแล้ว ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลก็มีปัญหาเรื่องเสียงในสภาอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องสภาล่ม สมัยสภาที่แล้วล่มไป 5 ครั้ง ตรงนี้คือปัญหาหนักอกที่นายกฯมองเห็นมาตลอด ต่อเมื่อก๊วนร.อ.ธรรมนัสถูกอัปเปหิออกไปจากพรรคพลังประชารัฐ ความกังวลในเรื่องสภาล่มผสมกับเรื่องรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำก็เลยหนักหน่วงขึ้นไปอีก อย่าลืมว่าสภามีผู้แทน 476 คน แกนกึ่งหนึ่งต้องมีส.ส. 238 คน เพื่อที่จะผ่านร่างกฎหมายหรืองบประมาณต่างๆ บวกลบคูณหารเสียงที่มีในมือปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์มีแต้มต่อแค่ 11 คนเท่านั้น ต้องบอกว่าเหนื่อยหากจะลากยาวรัฐบาลไปจนครบเทอม จุดอ่อนของรัฐบาลเรื่องนี้เรายังมองออก  เรื่องพรรค์อย่างนี้มีหรือที่บูรพาพยัคฆ์อย่างพล.อ.ประยุทธ์จะไม่รู้ไม่เตรียมการรับมือกลเกมส์ฝ่ายตรงข้ามคนชั่วช้าที่ต้องการล้มรัฐบาล

หากใครเป็นคอการเมืองตัวจริงเป็นแฟนคลับพล.อ.ประยุทธ์ขนาดแท้ จะรู้เลยว่าบิ๊กตู่ไม่ได้อยู่เฉยรอให้พวกมาเลื่อยขา  เพราะรุกคืบมาพักนึงแล้วในการเตรียมการแก้เกมส์รับมือเรื่องนี้ ไล่ตั้งแต่การปิดห้องจับเขาคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลังประชุมศบค. 11 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา ก่อนจะมีข่าวหลุดออกมาว่า “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยควักโพยส่วนตัวออกให้ความมั่นใจกับนายกฯ ว่ารัฐบาลมีเสียงส.ส.ในมือถึง 260 คน ขอให้อยู่บริหารประเทศเป็นนายกฯยาวๆไปได้เลย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงปริ่มน้ำ ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ก๊วนร.อ.ธรรมนัสหรือพรรคเศรษฐกิจไทยจะไม่ยกมือให้ ” นายกฯมีทางเลือกเดียว คืออยู่ครบเทอมและไม่ต้องห่วงจำนวน ส.ส.ในสภา หากมีการซักฟอก ฝ่ายค้านจะรวมเสียงได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง และเสียงสนับสนุนนายกฯ มั่นใจว่าจะหาได้ไม่น้อยกว่า 260 เสียงแน่นอน” เสี่ยหนูระบุ

จากนั้นเมื่อวันศุกร์ที่ 4 มี.ค.2565 ที่ผ่านมาล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์นัด 3 ป.กินข้าวเที่ยงที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายใน ร.1 รอ. ถือเป็นมื้อสมานฉันท์ระหว่างนายกฯกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ช่วงหลังมีข่าวระหองระแหงขบเหลี่ยมเปลี่ยนเกลียวกันมาตลอด ส่งผลให้เกิดกระแสข่าว 3 ป.หักดิบกันแล้วถึงขั้นแยกกันเดินแย่งชิงอำนาจของตัวเอง พร้อมกับการปล่อยข่าวรัฐบาลไปต่อไม่ไหวเดินไปไม่รอดและเตรียมยุบสภาเร็วๆนี้ ทั้งๆที่ความจริงพล.อ.ประยุทธ์ยืนกระต่ายขาเดียวมาตลอดไม่ว่าตอนไหน “ไม่ออก-ไม่ยุบ” จะอยู่ทำหน้าที่จนจบครบวาระในปี 2566 ที่เรื่องนี้พลอยทำให้นายใหญ่คนแดนไกลอย่างทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยออกมาฟาดงวงฟาดงาไม่หยุด เพราะแช่งชักหักกระดูกให้นายกฯเจอปัญหายุบสภาไวไว ถึงขนาดออกมาทำนายผ่านคลับเฮ้าส์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่ายุบสภาไม่เกินกลางปีนี้ แถมมั่นใจสุดๆถึงขนาดประกาศจะกลับเมืองไทยในพ.ศ.นี้ แต่ไม่มีวี่แววยุบสภายิ่งกว่าป่าช้ากลางดึก

 

เพราะพยัคฆ์ติดปีกเหนือท้องฟ้าอย่างพล.อ.ประยุทธ์มีหรือจะก้มลงมาฟังเสียงหมาเห่าข้างล่างกลางถนน นอกจะไม่ออกไม่ยุบสภาแล้ว การนัดหมายเรียกแกนนำรัฐบาล คัดเอาแต่ระดับหัวกะทิอย่างหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาล มากินข้าวมื้อค่ำที่สโมสรราชพฤกษ์ ชัดเจนว่าเป็นการส่งสัญญาณดังๆถึงทักษิณ ฝ่านค้าน ฝ่ายตรงข้ามทั้งในและนอกสภา อย่าคิดอาจฝันไกลใฝ่สูงว่ายุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่จะเกิดขึ้นง่ายๆ เสร็จจากนี้แล้ว 3 เม.ย. 2565 ในการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐที่เขาใหญ่ ก็เตรียมส่งคนเข้าไปควบคุมอำนาจในพรรคพลังประชารัฐ จัดกระบวนทัพกรรมการบริหารพรรคใหม่ ล้างไพ่สายร.อ.ธรรมนัสรื้อแกนนำสายผู้กองแป้งออกให้หมด อนาคตจะได้อุ่นใจไม่ต้องกลัวใครมาก่อหวอดหักหลังอีก แม้จะมีอุปสรรคขวากหนามสารพัดมากมายรออยู่เบื้องหน้า ทั้งอภิปรายไม่ไว้วางใจ แก้กฎหมายลูก 2 ฉบับ พ.ร.บ.งบประมาณปี 66 ตีความนับอายุนายกฯ 8 ปี ฯลฯ แถมจำนวนส.ส.ในมือยังต้องลุ้นกันทุกยกทุกกฎหมาย แต่คนแข็งโป๊กอย่างพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีทางจะยอมให้ใครมาลบเหลี่ยมทนให้คนชั่วมาขี่คอได้เป็นแน่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 7 ปีเศษ ถึงช่วงโค้งสุดท้ายปลายทางที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อแล้ว ไม่มีทางที่คนอย่างพล.อ.ประยุทธ์ที่ฝ่าด่านอรหันต์มาสารพัดจะยอมยกธงขาว ถอดใจลงจากหลังเสือง่ายๆแบบนี้ นัดดินเนอร์ราชพฤกษ์ค่ำนี้ รุกคืบทางการเมือง กระชับอำนาจของนายกฯล้วนๆ
/////////////////////////

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อยุธยาเดินหน้ายกระดับท่องเที่ยวจังหวัด สู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
ชายแดนเดือด "ทหารกัมพูชา" ปลุกชาวเขมรรุกฮือ รื้อลวดหนามกั้นบ้านหนองจาน "ทหารไทย" เข้าสกัดคุมเข้ม
ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง เข้มดูแลความปลอดภัยศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025
อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลกาซาปลิดชีพนักข่าว 4 สำนัก
ผู้นำเวียดนามเรียกประชุมฉุกเฉินรับมือไต้ฝุ่นคาจิกิ
"แม่ทัพภาค 2" ชี้หากพบทหารกัมพูชา รุกล้ำ-แอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​