No data was found

“รังสิมันต์ โรม”แถสุด อภิปรายค้ามนุษย์ พา”ปวีณ”โยงตั๋วช้าง ไม่เจตนาโยงสถาบันฯ

กดติดตาม TOP NEWS

"รังสิมันต์ โรม"แถสุด อภิปรายค้ามนุษย์ พา"ปวีณ"โยงตั๋วช้าง ไม่เจตนาโยงสถาบันฯ

วันที่ 23 ก.พ. 65 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงจุดประสงค์ที่ออกมาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญรธน.มาตรา 152 ในประเด็นการค้ามนุษย์ว่า จุดประสงค์หลักคือ 1.ตนต้องการให้เห็นว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ และสาเหตุของความล้มเหลวนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งก็มีเรื่องของการขัดขวาง และสุดท้ายปลาตัวใหญ่มันมีอำนาจสูงมาก ทำให้ตำรวจอย่างพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจาเข้าไม่ถึง และรัฐบาลก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เข้าไม่ถึง 2.ตนต้องการให้ประชาชนจดจำการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของพล.ต.ต.ปวีณใหม่ สิ่งที่มันเคยเกิดขึ้นในอดีตเราอาจจะรู้สึกว่าโรฮิงญา เราเอากลับไปไว้ที่บ้านหรือไม่นั้น เป็นความคิดที่ผิด ถ้าเราเอาสิ่งที่พล.ต.ต.ปวีณทำมาให้สังคมได้เห็นจะพบว่ามีตำรวจดีๆอยู่

เมื่อถามว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ทำไมจึงเพิ่งหยิบยกขึ้นมาอภิปราย เพราะพรรคก้าวไกลก็เป็นฝ่ายค้าน 3 ปี อภิปรายทั่วไปและอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตั้งหลายครั้ง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จริงๆเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเก่า ซึ่งเริ่มต้นยอมรับว่ามันเก่า แต่มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเรื่อยๆ และ TIP Report ปี 2021 การจัดอันดับค้ามนุษย์ล่าสุดเราอยู่ในลำดับรองบ๊วย และลำดับตกลง พอเราไปดูก็พบว่าลำดับที่ผ่านมาทิศทางการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของรัฐบาลล้มเหลว ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีแต่การค้ามนุษย์อย่างเดียว แต่เกิดจากากรที่รัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหา และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวพันจากการค้าทนุษย์โดยที่รับบาลไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้เลย ทำให้ไทยมีลำดับที่แย่ลง และถ้าเราเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆจนลำดับตกไปอยู่ที่เทียร์3 เราก็จะถูกแบนจากสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจมหาศาล ดังนั้นการอภิปรายของตนหากรัฐบาลนำไปปรับแก้ จะส่งผลบวกต่อรัฐบาลเอง และส่งผลบวกต่อการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน จะทำให้โลกยอมรับประเทศไทยมากขึ้น โอกาสในมีความสัมพันธ์ที่ดีตรงนี้และการต่อยอดธุรกิจก็จะตามมา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่า ทำไมเราไม่เอาข้อมูลตรงนี้ไปยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากจบการอภิปราย แต่กลับนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรแทน เพราะไม่มั่นใจอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนมั่นใจในข้อมูลมาก แต่คิดว่าการนำไปยื่นป.ป.ช.ในตอนนี้ ตนไม่มั่นใจป.ป.ช. พูดกันตรงไปตรงมาทั้งเรื่องนาฬิกาเพื่อน มันก็เป็นเรื่องที่ทำลายความเชื่อมั่นเยอะ หรือแม้กระทั่งเรื่องดาวเทียมที่ตนเคยยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ก็ไม่ได้รับความก้าวหน้าเลย ส่วนที่มีเพื่อนส.ส.พรรคก้าวไกลไปยื่นป.ป.ช.ในประเด็นอื่นๆ ถามว่าเชื่อมั่นไหม เราก็ไม่เชื่อมั่น แต่ก็ลองดูพยายามทำเต็มที่ และตนจะลองใช้กมธ.การกฎหมายฯ ที่คนทำหน้าที่เป็นกมธ.ติดตามเรื่องนี้ หกกมีความคืบหน้าหรือมีข้อมูลเพิ่มเติมจะตัดสินใจไปยื่นป.ป.ช.ก็ไม่สาย แต่ต้องบอกว่าสิ่งที่ตนอภิปรายในสภาฯไม่จำเป็นต้องรอให้ตนไปยื่นป.ป.ช. เพราะทุกหน่วยงานสามารถทำได้เองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปยื่นเลย ยกตัวอย่างให้ชัดเจนการที่ตนไม่ไปยื่นต่อกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ก็ไม่ได้หมายความว่ากองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ไม่มีหน้าที่ตรวจสอบการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ และป.ป.ช.มีหน้าที่ทำงานเชิงรุกในการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องให้มีคนไปเซ่นไหว้ถึงจะทำหน้าที่ด้วยซ้ำไป

เมื่อถามถึง กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องเอกสารนรป. 904 ว่าเป็นเอกสารปลอม นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนงงว่าคนที่พยายามวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ ตนไม่เห็นเขามีอะไรในมือ และรัฐบาลเองก็ไม่ปฏิเสธด้วยซ้ำ คนที่กล่าวอ้างเองก็ไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย ตรงกันข้ามเรื่องนี้คนที่จะรู้ว่าเอกสารจริงหรือไม่จริงมี 2 กลุ่มคือคนให้ คือผู้ที่ส่งแฟกซ์เอกสารนี้มาให้พล.ต.ต.ปวีณ และคนรับคือพล.ต.ต.ปวิณที่เป็นคนรับเอง และตนก็ได้รับเอกสารมาจากพล.ต.ต.ปวีณ ตนดูแล้วก็ไม่มีข้อสงสัยพร้อมเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวนี้เป็นเอกสารจริง และตนก็นำเสนอ ดังนั้นการที่จะบอกว่าเป็นเอกสารปลอมต่างๆก็เอาหลักฐานมาบอกว่าที่ปลอมนั้นปลอมอย่างไร ประเภทที่บอกว่าพิมพ์ผิดอะไรนั้น ประทานโทษเอกสารราชการจำนวนมากจะพิมพ์ผิดได้อย่างไร และจากการแสวงหาข้อมูลเชิงลึกจากคนที่เป็นนปร.มาก่อน ตนเช็คมาแล้วเขาก็ยืนยันว่าเอกสารนี้เป็นเอกสารจริง คำถามก็คือว่าคนที่วิจารณ์นี้เป็นนรป.หรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ ดังนั้นจะมากล่าวลอยๆบอกว่าเอกสารปลอม มันเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและหลักฐาน

 

เมื่อถามว่า ทำไมถึงนำเรื่องการค้ามนุษย์มาโยงกระทบสถาบัน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ความจริงสิ่งที่จะกระทบต่อสถาบัน มันไม่ได้อยู่ที่เอกสารตรงนี้ มันอยู่ที่ตัวคนที่ทำเรื่องนี้ต่างหาก คือคนที่พยายามใช้วิธีการในการทำให้พล.ต.ต.ปวีณไปอยู่ในจุดที่ไม่สามารถทำเรื่องการค้ามนุษย์ต่อได้ ตนคิดว่าตรงนี้ต่างหากที่จะกระทบ หากไปดูแล้วจะพบว่าไม่มีประโยคไหนที่ตนไปพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์เลย ดังนั้นการที่คุณจะคิดว่าตนต้องการโยงเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์มันจะเป็นสิ่งที่แต่ละคนคิดกันไปเอง สิ่งที่ตนนำเสนอคือมันมีบางคนระดับสูงมาก ซึ่งอาจจะอยู่แวดวงชั้นสูง เช่นคนที่กล่าวเปิดชื่อคือกรณีพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ซึ่ง ณ วันนั้นเขาทำงานรับใช้ 904 อยู่ และเขาก็ใช้สถานะของเขาแบบนี้ในการที่จะไปทำเรื่องราวต่าง ซึ่งทเท่าที่ตนทราบก็ไม่ใช่มีแค่เรื่องนี้ ที่ตนพูดทั้งหมดมาเพื่อต้องการบอกว่าการที่คนๆหนึ่งจะลี้ภัย จุดที่ทำให้เขาลาออกคือการส่งเขาไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จุดที่ทำให้เขาลี้ภัยคือเรื่องนี้ ดังนั้นตนต้องการให้ประชาชนเห็นว่าคนๆหนึ่งเขาลี้ภัยมีสาเหตุอะไร

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โฆษกภูมิใจไทย แจง "บี พุฒิพงษ์" ค้านดิจิทัล วอลเล็ต เป็นเรื่องส่วนตัว เผย 1 ปีแล้วไม่เข้าร่วมกิจกรรมพรรค
ศาลพิพากษา ลงโทษปรับหนักผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อนคนละ 8.6 ล้านบาท
อุกอาจ หนุ่ม Messenger ติดพนันออนไลน์ กระชากสร้อยต่อหน้ารถสายตรวจ สุดท้ายไม่รอด
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดในตอนกลางวัน เตือน 33 จว. มีฝน
แม่ช็อค ติดต่อลูกชายไม่ได้ พบกลายเป็นศพ รมควันคาห้องพัก
หนุ่มชัยภูมิลูกอีสาน แรงงานไทยหนีภัยสงคราม กลับมาปลูกองุ่นขาย รายได้งาม
ดื่มกาแฟจากตู้กด เจอแมลงไม่รู้ตัว แพ้เกือบตาย
ตัวประกันในเงื้อมมือฮามาส เจรจากันถึงไหนแล้ว
“พาณิชย์” ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพพี่น้องประชาชน จ.นครพนม
แล้งจัด ชุมชนโบราณ 300 ปีโผล่กลางเขื่อนฟิลิปปินส์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น