จากกรณี จนท.ชุดพญาเสือพร้อมจนท.ส่วนยุทธการ ด้านการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า พบมีการโพสต์ขายซากสัตว์ป่าในสื่อออนไลน์ ต่อมาได้เข้าจับกุมนายธีรศักดิ์ พร้อมของกลางหนังเสือลายเมฆ 1ผืน บริเวณพื้นที่จ.นครปฐม ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.30น.วันที่1มิ.ย.2564 นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการ ด้านการป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันปราบปราม และควบคุมไฟป่า นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ พญาเสือ นายยุทธพงศ์ ดำศรีสุข จนท.หน่วยพญาเสือ/หน.อุทยานฯพุเตย นายอรรถพล เภาอ่อน จนท.หน่วยพญาเสือ/หน.วนอุทยานฯชะอำ น.ส.เนตรนภา งามเนตร จนท.หน่วยพญาเสือ / หน.วนอุทยานฯเขานางพันธุรัตน์ / ผช.หน.อุทยานฯแก่งกระจาน นายโดม จันทร์สุวรรณ จนท.หน่วยพญาเสือ/ผช.หน.อุทยานฯพุเตย พร้อมกำลังจนท.อุทยานฯไทรโยค ตำรวจสภ.ไทรโยค ปกครองอ.ไทรโยค นำหมายค้นศาลจ.กาญจนบุรี เข้าตรวจสอบห้องเช่าเลขที่759/1ม.3ต.ท่าเสา อ.ไทรโยคจ.กาญจนบุรีซึ่งมีนายประกอบ โชสนับ อายุ 74ปี เป็นเจ้าของห้อง หลังสืบสวนจนทราบแน่ชัดว่า เป็นแหล่งค้าสัตว์ป่า และเป็นผู้ขายหนังเสือลายเมฆให้กับนายธีรศักดิ์
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่าห้องเช่าเลขที่759/1 ซึ่งเป็นห้องแรกของห้องแถว ปิดประตูใส่กุญแจ ต่อมาดช.แดง(นามสมมุติ)เป็นหลานของนายประกอบ ได้มาไขกุญแจและเปิดประตูบ้านนำตรวจ โดยบอกว่านายประกอบไม่อยู่ จนท.ตรวจสอบพบนกขุนทอง 1 ตัว นกเขียวก้านตองหัวสีทอง 1ตัว อยู่ในกรงไม้ เกล็ดลิ่นจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับใส่ขนย้ายสัตว์ ประกอบด้วยลังกระดาษเจาะรู ตาข่ายถุงพลาสติกโปร่ง สำหรับใส่สัตว์ อีกจำนวนมาก
ต่อมาจนท.พญาเสือได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยค เพื่อติดตามตัวนายประกอบ มาดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมทั้งจะได้สืบสวนขยายผล เพื่อกวาดล้างขบวนการค้าสัตว์ป่าให้สิ้นซากต่อไป อย่างไรก็ตาม จนท.ได้ทำการตรวจสอบ ลายอัตลักษณ์ ของหนังเสือลายเมฆ ที่จับกุมยึดมาได้ทั้งตัว ปรากฏว่าตรงกับลายอัตลักษณ์ของเสือลายเมฆ ตัวเดียวกันกับที่อาศัยอยู่ในผืนป่าอุทยานฯเอราวัณ ซึ่งมีภาพเสือตัวดังกล่าว ที่ได้จากจนท.วางติดตั้งกล้องคาเมร่าแท็ปไว้ในป่า แต่ก็ยังเป็นที่น่าสงสัยว่า จากภาพที่จนท.ได้ในป่าพบว่ามีเสือลายเมฆ 2ตัว ที่หากินด้วยกัน เชื่อว่าเป็นเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งเป็นไปได้ว่า น่าจะถูกพรานล่าไปทั้ง2ตัว
ทั้งนี้กลุ่มผู้รักษ์ป่ารักษ์สัตว์ป่า ต่างตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจนท.อุทยานฯเอราวัณ จึงไม่ลาดตระเวนตรวจสอบให้ทั่วผืนป่า ทั้งๆที่ได้ภาพของเสือลายเมฆ ในบริเวณใด ก็ต้องหมั่นคอยลาดตระเวน ดูแลปกป้องโดยเฉพาะทางด้านเขตติดต่อกับกับอ.ไทรโยค มีการลาดตระเวนตรวจสอบหรือไม่อย่างไร เหตุใดจึงปล่อยให้มีการสูญเสียสัตว์ป่าที่หายาก อย่างเสือลายเมฆ
