จากกรณี มีรายงานข่าวว่า รัฐมนตรีแหกมาตรการโควิด-19 ขนทีมงานเป็นโขยง แถมพกปืนเข้าสภาฯ เจอตำรวจรัฐสภาเบรก ฟิวส์ขาดเรียก “ผอ.สำนัก” มาเฉ่ง พร้อมตามตัว “ตร.รัฐสภา” มากราบเท้า
ได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างตำรวจรัฐสภา ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณประตูทางเข้า – ออกชั้น 1 กับทีมงานรัฐมนตรีช่วยรายหนึ่ง ซึ่งเป็น ส.ส.อยู่ด้วย โดยในระหว่างที่รัฐมนตรีรายนั้นเดินทางเข้ารัฐสภา ตำรวจรัฐสภาเห็นว่ามีผู้ติดตามจำนวนมาก ขัดต่อมาตรการของสาธารณสุข จึงได้แจ้งและขอความร่วมมือให้ลดจำนวนผู้ติดตามเข้าพื้นที่ นอกจากนี้ ยังตรวจพบว่าผู้ติดตามบางรายได้พกพาปืนด้วย จึงไม่อนุญาตให้เข้าพื้นที่ สร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐมนตรีดังกล่าว และทีมงานเป็นอย่างมาก พร้อมได้ขอจดชื่อตำรวจรัฐสภาผู้นั้นไป
โดยเมื่อคณะรัฐมนตรีรายนั้นเข้าพื้นที่รัฐสภาได้แล้ว จึงได้เรียก “ผู้อำนวยการสำนัก” สังกัดสภาผู้แทนราษฎรคนหนึ่งไปตำหนิ และให้ตามตัวตำรวจรัฐสภาที่จดชื่อไว้มาเข้าพบ เพื่อต่อว่าที่ไม่ให้ให้เกียรติรัฐมนตรีและทีมงาน ไม่เพียงเท่านั้น ยังบังคับให้ตำรวจรัฐสภาคนนั้นกราบเท้ารัฐมนตรีเพื่อขอขมาด้วย ฝ่ายตำรวจรัฐสภาจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตาม แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม เพราะเชื่อว่าตนเองปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้ไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าในเรื่องดังกล่าว เป็นทีมนายตำรวจติดตามของตนเองจริง ซึ่งก็มีมาแค่ 2 คนแต่ทางตำรวจสภายืนยันว่าไม่ให้เข้า เขาได้เพียงคนเดียว โดยเป็นไปตามที่ประธานสภาฯได้ตกลงกับสมาชิกสภาไว้ว่า ส.ส. ส.ว. หรือรัฐมนตรี ที่จะเข้าร่วมประชุมสภา ให้ผู้ติดตามได้แค่1 คน จึงทำให้นายตำรวจติดตามของร.อ.ธรรมนัส และตำรวจสภามีการโต้เถียงกัน ตนจึงได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัยรัฐสภาและตำรวจสภาคู่กรณีคนดังกล่าว มาปรับความเข้าใจกับนายตำรวจติดตามในเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นก็มีการยกมือไหว้ขอโทษกันไปตามปกติไม่ได้กราบเท้าตามที่มีเพจข่าวบางสื่อนำไปเผยแพร่