นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยในการพบปะสมาชิกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อตอบข้อสงสัย แผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Phuket Sandbox) ผ่านระบบ Zoom Webinar ว่า ยืนยันเดินหน้าเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน ครบ 2 โดส จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ตามแผนที่วางไว้ โดยเริ่มต้นที่จ.ภูเก็ต หรือ Phuket Sandbox ก่อน
โดยจะนำข้อสรุปแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้ว เข้าศบค.ชุดเล็ก วันที่ 2 มิ.ย. และวันที่ 4 มิ.ย. ช่วงเช้า จะมีการประชุมโดยคณะกรรมการวิชาการโรคติดต่อ จะมีการพิจารณาในมิติของอายุ พิจารณาในเรื่องวัคซีนที่ไม่ยอมรับเป็นลายลักษณ์อักษร จะออกมายังไง พิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ที่ยังตกค้างอยู่ และช่วงบ่าย จะนำเข้าสู่ที่ประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ซึ่งทุกอย่างจะต้องชัดเจนในวันที่ 4 มิ.ย. และหลังจากนั้นอาจจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมศบค. และครม. เพื่อรับรองผลประชุมของศบศ. และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ต่อไป
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การเปิดเมืองในครั้งนี้ จะไม่ใช่การเปิดเมืองในรูปแบบเดิม ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนต่อจากนี้ไป จะต้องดำเนินการตามแผนควบคู่ไปและทำงานแข่งกับเวลา ใน 3 เรื่อง ประกอบด้วย
หนึ่ง แผนการฉีดวัคซีน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจังหวัดภูเก็ตทำได้ดีมาก สามารถฉีดได้สูงสุดประมาณ 15,000 คนต่อวัน ซึ่งตอนนี้การฉีดวัคซีนน่าจะเป็นไปตามแผนทุกอย่าง นอกจากนี้ สิ่งที่ภูเก็ตจะต้องทำคือ แผนบริหารความเสี่ยง จะต้องมีการบริหารความเสี่ยงกรณีที่มีการติด มีจำนวนโรงพยาบาล มีจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ มีการสำรองยา ต่างๆ และจะมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ออกไป
สอง แผนพัฒนาเมือง ต้องมีการเปิดเมืองในรูปแบบใหม่ จะต้องมีการพัฒนาที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่เป็นจุดอ่อนเก่าๆ อาทิ ความไม่สะอาด ความไม่ปลอดภัย แก้ปัญหานักท่องเทียวโดนเอาเปรียบ รวมถึงเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การปรับปรุงถนน การจัดเรื่องน้ำเสียต่างๆ จังหวัดภูเก็ตดำเนินการมีแผนชัดเจน เราหวังว่า เมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาจะไม่ใช่ภูเก็ตแบบเดิม จะต้องเป็นภูเก็ตที่สามารถสร้างความประทับใจ เพราะกลุ่มที่เราตั้งใจจะเอาเข้ามา เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง
สาม แผนด้านการตลาด จะทำทั้งระยะใกล้ และระยะไกล แต่ยอมรับว่าในระยะใกล้ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ที่เป็นตลาดสำคัญในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งอินเดียด้วย ในช่วงไตรมาสสาม คงเป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากการติดเชื้อยังมากโดยเฉพาะในอินเดีย รวมถึงนโยบายของประเทศต้นทางเหล่านั้น เท่าที่ทราบคือยังไม่อนุญาตให้ออก แต่เราจะพยายามเอาคนเข้ามา แต่ว่า จำนวนคนอาจจะไม่เยอะเท่าคนที่มาจากระยะไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางยุโรป และอเมริกา โดยตั้งเป้าหมายในไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) ที่ 1.29 แสนคน
สำหรับแนวทางเบื้องต้นในการเดินทางเข้าภูเก็ตในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ประกอบด้วย
-นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่ต่ำกว่า14 วัน และไม่เกิน 6 เดือน เป็นวัคซีนที่รับรองจาก WHO หรือได้รับการอนุมัติจากประเทศต้นทางขอเข้าประเทศตามขั้นตอนปกติ(COE)
-เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เดินทางมากับผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนครบโดส- ไม่ต้องตรวจ
-เด็กอายุ 6-18 ปี ต้องการตรวจเมื่อเดินทางมาถึงที่สนามบิน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มี Social Contact(รอผลตรวจ 15 นาที)
ทั้งนี้ ททท.จะมีการจัดกิจกรรมที่เรียกว่า Countdown to Reopen Phuket เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน นี้ ซึ่งจะประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) การให้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับภูเก็ตทั้งหมด ซึ่งสามารถติดตามได้ใน TATNEWS 2) การพีอาร์ประชาสัมพันธ์ ได้มีการสั่งการไปแล้วว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนกรกฎาคม ทุกสำนักงานในต่างประเทศ ต้องประชาสัมพันธ์ภูเก็ตให้ทราบ 3) ระดมจัดกิจกรรมเข้ามา จะค่อยๆ ทยอยเข้ามาตั้งแต่สัปดาห์แรก อเมริกาก่อน และไล่เข้ามาเรื่อยๆ ตั้งเป้าไว้ประมาณ 200 คน ที่จะเข้ามา Experimental Trip หรือ ทริป(ทด) ลองของใหม่ ในช่วงเดือนกรกฎาคม
และททท. ยังได้รับการติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในการที่จะเข้าภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นกองถ่ายซีรี่ย์ดัง การติดต่อเข้ามาขอเก็บตัวของทีมฟุตบอล ทีมกีฬา เป็นต้น
ในส่วนของเที่ยวบิน หลังจากที่ประกาศ Phuket Sandbox ออกไป เที่ยวบินต่างๆ อาจจะมีการทบทวนเพื่อรอดูความชัดเจนบ้างในสุดสัปดาห์นี้ แต่นี่คือแผนที่ประกาศออกไปโดยสายการบินแล้ว อาทิ การบินไทย บินจากแฟรงก์เฟิร์ต ซูริค ลอนดอน โคเปนเฮเกน ปารีส โซล สิงคโปร์ นิวเดลี(อาจปรับเป็นโตเกียว) เข้าภูเก็ต 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่ม 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป , สายการบิน Emirates ดูไบ-ภูเก็ต วันที่ 1-31 กรกฎาคม บินทุกวัน เป็นต้น
นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงเป้าหมายในการสร้างรายได้ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ก่อนหน้านี้ สภาพัฒน์ ระบุว่าจะเหลือ 5 แสนคน หรืออยู่ที่ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ทางรมว.การท่องเที่ยวและกีฬาและททท. ยังยืนยันเป้าในการสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติตามตัวเลขเดิมที่ตั้งไว้ประมาณ 3-4 ล้านคน และจะผลักดันให้ปีหน้า เพิ่มเป็น 20.8 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ถ้าในสถานการณ์ปกติ ปี 62 มีนักท่องเทียวต่างชาติเข้ามาเดือนนึงประมาณ 3 ล้านคน และถ้าเป็นสถานการณ์ปกติไตรมาสเดียว จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 6-7 ล้านคน ดังนั้น ถ้าเราจะประสบความสำเร็จในการเปิด Phuket Sandbox ถ้าเราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ถ้านโยบายของประเทศต้นทางเอื้อต่อการเดินทางมา เป้าหมายที่ 3-4 ล้านคน ก็อยู่ในวิสัยที่สามารถดำเนินการได้
