นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นางสาวพชรพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อาศัยอยู่ย่านสายไหม กรุงเทพมหานคร ว่า มีอาการคล้ายถูกผีเข้า หลังจากกลับมาจากเที่ยวปีใหม่ที่จังหวัดยะลาในวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอาการเจ็บเท้าเดินไม่ค่อยได้ และมีอาการพะอืดพะอมจะอาเจียนอยู่ตลอดเวลา จากเป็นคนไม่กินอาหารอิสลามอยู่ดีๆ ก็มาอยากกินอยู่ตลอดเวลา นายเอกภพ จึงติดต่อไปยังอาจารย์อ็อดวัดสายไหม จ.ปทุมธานี ว่า จะพา นางสาวพชรพรรณ ที่มีอาการคล้ายถูกผีเข้าไปให้อาจารย์ เพื่อปัดเป่าสิ่งเลวร้ายออกจากร่างกายให้

นางสาวพชรพรรณ เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเป็นคนแข็งแรงร่างกายปกติดีทุกอย่าง และตนเองเป็นคนเชื่อในวิทยาศาสตร์ ไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับ แต่เมื่อช่วงวันที่ 24 ธ.ค.65 ตนเองได้ไปหาแฟนที่เป็นทหารอยู่จังหวัดยะลา และได้แวะเที่ยวฉลองปีใหม่ที่นั้นเลย ระหว่างเที่ยวก็ได้แวะไปกินข้าวตามร้านอาหารที่อยู่ใกล้ๆ มัสยิด และตนเองจำได้ว่า บริเวณดังกล่าวเคยเกิดเหตุระเบิดขึ้นและมีคนเสียชีวิต จึงเอามือชี้นิ้วไปที่จุดดังกล่าว พร้อมถามแฟนว่า ตรงนั้นเคยมีเหตุระเบิดและมีคนตายใช่ไหม แฟนก็ตอบว่าใช่
จากนั้นพอตนเองกลับที่พักก็รู้สึกเจ็บที่ฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้างมาก และมีอาการพะอืดพะอมอยากจะอ๊วกอยู่ตลอดเวลา แต่ตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าที่เจ็บฝ่าเท้าน่าจะเกิดจากการเดินมากและที่จะอ๊วกอาจเป็นเพราะได้กลิ่นอาหารที่มีเครื่องเทศแรง จนกระทั่งวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานครทางเครื่องบินโดยสาร ระหว่างทางได้นั่งข้างผู้หญิงอิสลาม ตนเองก็รู้สึกมีอาการปวดหัวอย่างหนัก มีอาการจะอ๊วกและมีอาการเจ็บฝ่าเท้าขึ้นมาทันที พอเครื่องบินลงจอดที่สนามบินดอนเมือง ก็พยามพยุงตัวเองไปที่รถของพ่อที่จอดรออยู่หน้าสนามบิน แต่พอขึ้นรถพ่อได้ตนเองก็หลับไป


นางสาวพชรพรรณ เล่าต่ออีกว่า จากที่กลับมาจากจังหวัดยะลาวันนั้นตนเองกลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย อยากอยู่แต่ในห้องคนเดียว ขาไม่ค่อยมีแรง และมีอาการพะอืดพะอมทุกวัน อยากกินแต่อาหารอิสลาม ทั้งๆที่แต่ก่อนนี้ไม่เคยอยากกินอาหารอิสลามเลย ตนจึงไปดูหมอดูที่รู้จักกัน ซึ่งหมอดูได้ทักมาว่า ตนเองถูกสิ่งไม่ดีเข้าตัววิธีแก้คือการเดินรอบโบสถ์ 9 รอบ ตนเองจึงทำตามที่หมอดูบอก
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ นางสาวพชรพรรณ ได้เดินทางมาที่วัดสายไหม ซึ่งมีอาการปกติดี แต่พออาจารย์อ็อด ได้ถามว่า”เอ็งเป็นใครมาอยู่ในร่างเขาทำไม ออกไป”จากนั้นอาการของนางสาวพชรพรรณก็เปลี่ยนไป ร้องให้ออกมาไม่หยุด ร้องบอกว่าเจ็บ พออาจารย์อ็อดนำมีดหมอมาจี้ที่หัวอาการของนางสาวพชรพรรณ ก็เริ่มดีขึ้น พอได้ดื่มน้ำมนต์นางสาวพชรพรรณอาเจียนออกมา จากนั้นก็เป็นปกติ พอถามนางสาวพชรพรรณ ว่า เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นพอรู้ไหม นางสาวพชรพรรณตอบว่า รู้ทุกอย่าง แต่บังคับตัวเองไม่ได้ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย จากนั้น อาจารย์อ็อด กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เจออะไรอย่าไปทัก อย่าไปลบหลู่เขา ตอนนี้เขาไปแล้ว สิ่งพวกนี้ขึ้นอยู่ที่กรรม

