วันที่ 25 ม.ค. 2565 นางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “เจ๋จ๊า” เจ้าของห้างผ้าโชคดี ได้ถือโอกาสเชิญญาติพี่น้อง คนสนิท และสื่อมวลชน ร่วมรับประทานอาหารเจ เพื่อถือเป็นการขอบคุณ และเพื่อความเป็นสิริมงคล ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยช่วงหนึ่งของการพบปะสังสรรค์
“เจ๋จ๊า” หรือ “แม่จ๋า” ได้ขออนุญาตทุกๆท่านที่ได้มาร่วมงาน ประกาศเจตนารมณ์ ในการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 นครศรีธรรมราช พรรคเสรีรวมไทย ว่า “ในวันนี้เป็นวันมงคลสำหรับแม่จ๋าในการจัดการงานไหว้ขึ้นในวันนี้ ก็เนื่องจากในวันที่31 ม.ค. ทุกท่านก็จะมีภาระกิจของตัวเอง แม่จ๋าจึงอยากประกาศให้ทุกท่านในที่นี้ทราบถึงเจตนารมณ์ของการลงสมัครรับเลือกตั้งว่าแม่จ๋ามีความตั้งใจจริง ที่อยากเห็นผู้แทนที่ประชาชนสามารถที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เวลาที่ประชาชนทุกข์ร้อน สามารถมาขอความช่วยเหลือได้ซึ่งในปัจจุบันเป็นแบบนั้นหรือไม่ แม่จ๋ามีความตั้งใจจริงและแน่วแน่ ที่จะสร้างสรรค์สังคมให้ดียิ่งกว่านี้ เพราะแม่จ๋าได้ตระหนักอย่างถี่ถ้วนและบรรลุแล้วว่า เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ต่อให้แม่จ๋ามีสมบัติมากมายเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แม่จ๋าก็ไม่สามารถเอาอะไรไปได้เลย คุณกิตติ สามีแม่จ๋าผ้าก็เอาอะไรไปไม่ได้สักหลา กระดุมสักเม็ดก็เอาอะไรไปไม่ได้
ตั้งแต่วันที่คุณกิตติ เสียชีวิต ก็คิดในใจเสมอมาว่า ต่อแต่นี้ไปชีวิตที่เหลือคือการให้คืนสู่สังคม ตราบเท่าที่เราจะมีแรงทำได้ การตัดสินใจสู่สนามการเมืองในครั้งนี้ แม่จ๋าได้ตระหนักดีแล้วว่าหากเรามีโอกาสได้ไปยืนในจุดที่สามรถช่วยเหลือชาวบ้านได้มากกว่านี้สังคมคงจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน เพราะอย่างที่เรียนว่าชีวิตนี้เพื่อคืนกลับ แม่จ๋าก็ไม่ได้เข้าไปเพื่อหวังกอบโกยอะไร แม้แต่เงินเดือนหากได้เป็น สส.ก็คงจะคืนกลับสังคมเช่นกัน แต่จะคืนกลับในรูปแบบไหนก็มาว่าหลังจากได้เป็นแล้วนะค่ะ นางอัมพาพันธ์ กล่าวในที่สุด
กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/จ.นครศรีธรรมราช