"นายกฯ" มั่นใจเว้นวรรค "รมว.กลาโหม" ไม่กระทบดูแลมั่นคงชายแดน ครม.เห็นชอบเรียงลำดับรองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการแทนนายกฯ
ข่าวที่น่าสนใจ
1 ก.ค. 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และได้เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าโดยไม่แถลงข่าวตามปกติ
โดยผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามถึงกรณีที่ยังไม่มีการแต่งตั้งบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว โดยผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า การไม่แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะทำให้การทำงานด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนเกิดปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “ไม่สะดุด” พร้อมยืนยันว่า มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมทำหน้าที่อยู่แล้ว และทำงานได้ดีมาก
สำหรับความเป็นไปได้ในการเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อรอ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหาร ซึ่งต้องรอพ้นวาระ 2 ปีหลังดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 30 กันยายนนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ยังไม่ทราบ เดี๋ยวรอดู แต่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมก็ถืองานไว้เยอะ”
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีเชื่อมือ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช หรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถาม เช่นเดียวกับคำถามที่ว่า การไม่แต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่สร้างแรงกระเพื่อมในเหล่าทัพใช่หรือไม่
เนื่องจากการประชุม ครม. วันนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุม โดยได้ลงจากตึกบัญชาการไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที ทำให้เกิดความชุลมุนระหว่างสื่อมวลชนที่พยายามสัมภาษณ์ จนมีช่างภาพล้มลง นายกรัฐมนตรีจึงหันมาสอบถามว่า “ช่างภาพเป็นอย่างไรบ้าง” จากนั้นจึงเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
ทั้งนี้ครม. เห็นชอบให้รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ ให้แต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยเรียงลำดับความรับผิดชอบ ดังนี้
1. นายภูมิธรรม เวชยชัย
2. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
3. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
4. นายพิชัย ชุณหวชิร
5. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
ผู้รักษาราชการแทนในลำดับที่ 1 จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงสามารถทำหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ได้
การใช้อำนาจต้องผ่าน ครม. อย่างไรก็ตาม การใช้อำนาจในเรื่องการบริหารงานบุคคล และการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน เป็นไปตามกฎหมาย
กองอาลักษณ์มีความเห็นว่าการมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีให้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และอาศัยอำนาจตามมาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง