จากกรณี ส.ต.อ.อภิวัฒน์ ทองไท อายุ 28 ปี สังกัด ผู้บังคับหมู่กองปราบปราม (ผบ.หมู่กก.1 บก.ป.)ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในแฟลต 05 ตึก 4 ชั้น 2 ห้อง 109/178 ซอยวิภาวดี 40/1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. โดยมีเพื่อนตำรวจ พบศพเมื่อช่วงเช้าวันนี้ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ เบื้องต้น เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันนี้ช่วงเช้า กำลังจะไปทำงาน แล้วได้แวะเคาะประตูห้องเพื่อจะปลุกให้ตื่น เนื่องจากผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่คนเดียว ยืนเคาะอยู่เป็นเวลานานไม่มีการตอบรับ จึงงัดบานเกร็ดเปิดดู พบ ส.ต.อ.อภิวัฒน์ นอนเสียชีวิตอยู่ จึงได้โทรแจ้งไปที่ศูนย์วิทยุ 191 พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และแจ้งพนักงานสอบสวน นั่นคือรายละเอียดเมื่อช่วงเช้าวันนี้
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังแฟลต ข้าราชการตำรวจและขึ้นไปยังห้องที่เกิดเหตุ พบว่า หน้าประตูห้องเป็นชื่อของนายตำรวจคนเก่าที่เคยพักอยู่ห้องดังกล่าว บานเกล็ดลักษณะถูกถอดกระจกออกไป 3แผ่น ประตูห้องล็อคไว้ ภายในห้องมองเข้าไปข้าวของกระจัดกระจายมีกระป๋องเบียร์วางอยู่กลางพื้นห้อง บนที่นอนมีคราบเลือดและผ้าห่มคลุมอยู่ ที่ผนังห้องพบคราบเลือด 2 จุด
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้สอบถามแม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่อยู่ด้านล่างของแฟลตตำรวจก็ทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่แฟลตตำรวจแห่งนี้มานานแล้ว พบว่าอยู่คนเดียว เห็นครั้งล่าสุดคือเมื่อวานนี้ จากนั้นก็ไม่ได้เห็นอีกเลย จนมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกัน จะพูดคุยกันแค่ๆตำรวจนายนี้ลงมาสั่งอาหารก็เท่านั้น ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต น่าจะเป็นเรื่องของหนี้สิน เพราะเท่าที่ตนเองอยู่ที่แฟลตตำรวจแห่งนี้มากกว่า 30 ปีก็เคยได้ยินเรื่องหนี้สินของตำรวจอยู่เป็นประจำ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า เห็นภรรยาและญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่ห้องพัก จากนั้นก็ทราบว่าได้ไปให้ปากคำที่ สน. พหลโยธิน
ขณะที่พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผู้กำกับ สน.พหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ยังไม่สามารถยืนยันสาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้ได้ ต้องรอตรวจสอบและสอบปากคำจากญาติ ซึ่งขณะนี้ได้เชิญภรรยาที่พักอยู่ใน จ.อุบลราชธานี มาให้ข้อมูลเพื่อประกอบสำนวนคดี
อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากแหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่นายตำรวจ กองปราบรายนี้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง มาจากความเครียดจากปัญหาส่วนตัว 2 เรื่องคือ 1 เรื่องที่ตนเองถูกย้ายจากตำรวจปฏิบัติการพิเศษ มาสังกัดตำรวจกองปราบ ซึ่งนายตำรวจรายนี้กำลังจะทำเรื่องขอย้ายไปอยู่กับครอบครัวคือภรรยาและลูกที่อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี แต่กลับถูกย้ายมาสังกัดกองปราบก่อน
ส่วนเรื่องที่ 2 คือ นายตำรวจรายนี้กำลังจะถูกยึดห้องพัก เนื่องจากว่า หากตำรวจที่ต้องเปลี่ยนต้นสังกัดหรือโยกย้าย จะไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้เพราะแฟลตตำรวจแห่งนี้ ตำรวจที่สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ถึงจะมีสิทธิ์เข้าพักได้
ประกอบกับช่วงเวลาก่อนก่อเหตุ นายตำรวจรายนี้พักอาศัยอยู่คนเดียวและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นจำนวนมาก จนอาจเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ต้องรอสอบปากคำภรรยาและญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งตำรวจจะสรุปสำนวนการเสียชีวิตต่อไป
