นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวถึง สถานการณ์การติดเชื้อ โควิด19 รายวัน ใน 10 อันดับ พบว่ากรุงเทพมหานคร ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม ยังสูงสุด 1,191 ราย
2. เพชรบุรี 437 ราย
3.นนทบุรี 99 ราย
4.สมุทรปราการ 94 ราย
5.ชลบุรี 71 ราย
6.ปทุมธานี 68 ราย
7.สมุทรสาคร 49 ราย
8.ยะลา 43 ราย
9.ราชบุรี 29 และอันดับ
10.ตาก,สงขลาสุราษฎร์ธานี,นครปฐม จังหวัดละ 20 ราย
โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อในเรือนจำสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 22 พฤษภาคมพบ 15,153 ราย
ทั้งนี้นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุว่า เมื่อมาดูกราฟการติดเชื้อในประเทศสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจยังคงมีการแพร่ระบาดกันอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์เก่ายังคงต้องเข้มข้นมาตรการสาธารณสุขและเร่งการคัดกรองเชิงรุกเพื่อควบคุมสถานการณ์ ประชาชนต้องตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตระหนก
โดยศูนย์ปฏิบัติการกรุงเทพมหานคร ยังพบกลุ่มก้อนใหญ่การแพร่ระบาดตามเขตต่าง ๆ รวม 24 เขต ยังพบว่ากรุงเทพชั้นในยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อแน่น และพบเป็นแรงงานต่างด้าว ตามแคมป์ก่อสร้าง ตามชุมชน ตลาดต่าง ๆ โดยกรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขต้องบูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครแบ่ง กทม.เป็น 6 โซน เพื่อประสานรถ 1669 ศูนย์เอราวัณเพื่อกระจายตัวรับผู้ป่วยส่งเข้าโรงพยาบาลตามโซนที่แบ่งไว้ โดยพุ่งเป้าไปที่คลัสเตอร์ตลาดบางกะปิ มีการตรวจเชิงรุก 845 ราย ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 137 รายคิดเป็นเปอร์เซ็นต์สูงถึงร้อยละ 14.21 จึงต้องเร่งควบคุมการติดเชื้อเป็นการด่วน
นายแพทย์ทวีศิลป์ ยังเปิดเผยถึงกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ซึ่งเป็นแชมป์คนงานก่อสร้างเช่นกัน คือจุดแคมป์ก่อสร้างที่คลองเตย และ ห้วยขวาง ที่ยังมีการระบาดในกลุ่มคนงานซึ่งเป็นรายงานหลายสัญชาติ โดยนายกรัฐมนตรีกำชับเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขกรุงเทพมหานครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การตรวจเชิงรุกและดูแลผู้ป่วยไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าวหรือประชาชนคนไทยต้องเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันให้เกิดความทั่วถึงและรวดเร็วเพื่อควบคุมสถานการณ์ได้ทันที
พร้อมยืนยันว่าค่าใช้จ่ายการตรวจและการรักษาของผู้ป่วยทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยและต่างชาติมีการจัดเตรียมงบประมาณเพื่อดูแลทุกคน