
วันที่ 26 ธ.ค. 68 อาจารย์เฉลิมชัยได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กของลูกศิษย์ใกล้ชิด ระบุว่า ช่วงแรกเข้าใจว่าผลงานศิลปะภายในและภายนอกพระอุโบสถถูกทุบทำลายทั้งหมด แต่เมื่อเดินทางไปตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเช้ามืด พบว่ายังมีผลงานเหลืออยู่จำนวนมาก และสามารถเข้าห้ามปรามได้ทันก่อนจะถูกทำลายเพิ่มเติม
จากการสอบถามรักษาการเจ้าอาวาสวัด ทราบว่า การทุบทำลายเกิดจากความตั้งใจจะขยายพื้นที่วัดให้กว้างขึ้น โดยไม่ได้มีเจตนาทำลายคุณค่าทางศิลปะ และมิได้ปรึกษากับศิลปินผู้สร้างผลงาน คือ อาจารย์สมลักษณ์ ปันติบุญ ศิลปินแห่งชาติ ปี 2567–2568 สาขาประติมากรรมปั้นเซรามิก และ อาจารย์ทรงเดช ทิพย์ทอง อดีตนายกสมาคมขัวศิลปะ ซึ่งทั้งสองเป็นศิลปินในพื้นที่และได้สร้างสรรค์ผลงานให้วัดโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า ผลงานที่ถูกทุบทำลายไปแล้ว ได้แก่ สถาปัตยกรรมกำแพงดินของอาจารย์สมลักษณ์ และงานจิตรกรรมฝาผนังไทยของอาจารย์ทรงเดช ซึ่งล้วนเป็นผลงานทรงคุณค่า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และถือเป็น “แรร์ไอเทม” (Rare Item) ของตำบลนางแล อย่างไรก็ตาม ยังมีผลงานศิลปะสำคัญอีกจำนวนมากที่ยังคงอยู่ โดยเฉพาะภาพวาดและงานศิลป์บริเวณระเบียงวัด

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว อาจารย์เฉลิมชัยได้ร่วมประชุมหารือกับรักษาการเจ้าอาวาส และศิลปินทั้งสอง เพื่อหาแนวทางฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่ศิลปะภายในวัด พร้อมยกกรณีนี้เป็นบทเรียนสำคัญว่า วัดหรือหน่วยงานใดที่มีผลงานศิลปะ ควรหลีกเลี่ยงการรื้อถอนหรือทำลายโดยพลการ และต้องปรึกษาศิลปินเจ้าของผลงานก่อน โดยเฉพาะในกรณีที่ศิลปินยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ อาจารย์เฉลิมชัยยังได้เชิญชวนประชาชนและผู้สนใจ เข้าไปเยี่ยมชมความงดงามของผลงานศิลปะที่ยังคงเหลืออยู่ภายในวัดป่าอ้อร่มเย็น เพื่อร่วมกันเห็นคุณค่าและช่วยกันอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น




