ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ‘ดร.เอ้’ ว่าที่ผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ได้เล่าย้อนเรื่องราวความทรงจำในอดีต เปิดเผยความรู้สึกกับความใฝ่ฝันที่อยากก้าวขึ้นมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. คือตอนที่ได้พบกับ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ร้อยเอก กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา หรือช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยปี 2-3 มีหลักสูตรเป็นวิชาโปรเจกต์ให้นักศึกษาได้ลองแก้ปัญหาต่างๆ
ซึ่งช่วงนั้นตนประสบปัญหาการเดินทางระหว่างบ้านพักไปยังมหาวิทยาลัย ในสมัยนั้นใช้เวลาเดินทางร่วม 4-5 ชั่วโมง จึงเกิดความคิดที่อยากจะแก้ปัญหานี้ให้ได้ และเกิดเป็นโปรเจกต์คำนวณการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งในตอนเรียนเขียนโปรแกรมผลลัพธ์ ได้เกรด A วิชาโปรเจกต์นี้ จึงอยากต่อยอดเพื่อให้รถไฟฟ้าใต้ดินเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย
มาในวันนี้เมื่อมีโอกาสก้าวเข้ามาแล้ว จึงขออาสามาบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ไม่ว่าจะเป็นการจัดการฝุ่นพิษ ที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น, ปัญหาการจราจร ที่เป็นปัญหาต้นๆของชาวกรุงเทพมหานคร, ปัญหาเรื่องการศึกษา ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการศึกษาคือรากฐานสำคัญของทุกชีวิต
อีกทั้งมีความตั้งใจในการเปิดศูนย์สาธารณสุข ให้กลายเป็นศูนย์การแพทย์ให้ได้ และอีกหนึ่งปัญหาของชาวกรุงเทพมหานคร คือปัญหาน้ำท่วม ต่อไปกรุงเทพมหานคร “น้ำ จะไม่รอการระบายอีกต่อไป” ไม่เพียงเท่านั้น ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวด้วยนำเสียงมุ่งมั่น ว่าจะทุ่มเท และนำประสบการณ์ที่ตนสั่งสมทั้งหมดอย่างรอบด้าน มาแก้ปัญหาต่างๆให้ชาวกรุงเทพมหานครให้ได้ “ผมสัญญา” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าว
นอกจากนี้ ศ.ดร.สุชัชวีร์ ยังได้กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกสมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ ระบุว่าส่วนตัวมีความศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นพรรคเก่าแก่ของประเทศ และที่ผ่านมาก็มีบุคคลสำคัญของพรรค ได้มีโอกาสทำหน้าที่รับใช้พี่น้องประชาชน และประเทศชาติมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น “นายชวน หลีกภัย” ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งบุคคลทั้งสองเปรียบเสมือนครูคนหนึ่งของตน จึงไม่รีรอที่จะตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ คือพรรคที่ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
โดยในช่วงท้าย ศ.ดร.สุชัชวีร์ ได้กล่าวถึงพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ว่าสิ่งที่พูดมาทั้งหมดและเป็นสิ่งที่ตนอยากจะทำให้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครนั้น เป็นสิ่งที่สามารถทำได้จริงๆ เพราะตนมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการอาสาเข้ามารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ใหญ่และปัญหาก็มากตามไปด้วย ตนจึงอยากให้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกท่าน ได้เปิดหัวใจ และเชื่อว่าตนสามารถเปลี่ยนกรุงเทพฯให้ดีขึ้นได้ “ผมทำได้” เพราะผมได้ทำสิ่งที่ผมรัก” ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวในท้ายที่สุด
