วันที่ 20 พ.ค.”พิมรี่พาย” ได้ออกมาไลฟ์ชี้แจงถึงกรณีนี้อีกครั้งช่วงเย็น ระบุว่า “ไม่เคยคิดจะพูดเรื่องนี้ แต่ต้องพูดให้เข้าใจ พิมรู้ดีว่าพิมไม่ได้เป็นคนที่พิเศษหรือวิเศษไปกว่าใคร รู้ดีว่าตัวเองแตะต้องได้เพราะเป็นแค่แม่ค้าธรรมดา เป็นคนธรรมดา ทุกคนวิจารณ์ได้ แต่ยอมรับตามตรง แค่ 5 วินาทีที่คุณทักษิณพูดถึง แค่ 5 วินาทีนี้ไม่มีใครรู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง” รู้ไหมว่าช่วงเช้าหลังที่ถูกพูดถึง ตนซื้อของบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ โดยไม่ได้ทำเป็นคอนเทนต์ แค่ต้องการช่วยหลังบ้าน ซื้อของไป 2 แสนกว่าบาท แต่แค่คุณทักษิณพูดถึง 5 วินาทีเมื่อคืน ของบริจาคถูกส่งไปตอนเช้า 9 โมง โดยไม่ประสงค์ออกนาม หน่วยงานนั้นให้เอาของกลับ ไม่รับของจากฉัน โดยหน่วยงานนั้นบอกว่า “ไม่ขอรับ ไม่อยากมีปัญหา” นี่แค่ชม 5 วินาทีเท่านั้น ถ้าพูดถึง 1 นาทีไม่ต้องหาที่นอนใหม่เลยหรือ
“เธอเคยรู้ไหม ว่าฉันโดนอำนาจมืดข่มขู่จะตรวจสอบกี่ครั้ง ฉันทำอะไรผิด ฉันแค่ขายของ ถ้าเธอไม่รู้ เธอรู้เอาไว้ด้วย ฉันโดนแอคหลุมมาด่าทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร ผลกระทบจากการที่คุณทักษิณพูดถึงฉัน เพียงต้องการแซะรัฐบาลและขบขัน แต่ผลกระทบที่ตามมาฉันโดนอะไรบ้าง ฉันอยู่ในสังคมนี้ฉันรู้ต้องทำอย่างไร ทำไมถึงไม่อยากให้โยงการเมือง เพราะฉันขยับตัวไม่ได้เลย ถ้าขยับจะถูกมองทำในเจตนาไม่ได้” ธุรกิจพิมทำอย่างสุจริตและเสียภาษี ระวังตัวที่สุด รู้ไหมฉันให้คนไปขอตั้งโรงพยาบาลที่คลองเตย รออยู่ 2 อาทิตย์เขาไล่ฉันกลับมา แถมยังต้องแบกรับภาระลูกน้องอีกหลายชีวิต แต่พอถูกโยงว่ามีปัญหา ความจริงโดนโยงมาหลายครั้ง แต่พูดไม่ได้
“พิมรี่พาย” ยังระบุอีกว่า ความจริงเธอเพิ่งมารวยแค่ 2 ปีนี้เอง เคยจนมาก่อน เป็นแม่ค้าตลาดนัด เรียนก็ไม่จบ ทำให้เข้าใจคนจนดี จึงช่วยเพราะเข้าใจหัวอกคนจน เข้าใจความลำบากและความทุกข์ ทำให้คิดตอบแทนคืนให้สังคมบ้าง ยิ่งคุณทักษิณพูดถึง 5 วินาที มีเอฟเฟกต์มากมาย ท่านพูดขบขำกดดันรัฐบาล แต่ทำให้เราซวย ซึ่งเดือดร้อนจากคำพูดของท่านจริงๆ รอบนี้พูดถึงพิมแล้วฉันจะอยู่อย่างไร
ขณะเดียวกัน พิมรี่พายยังสร้างความไม่พอใจให้ชาวทวิตเตอร์เป็นอย่างมากเมื่อเธอพูดออกมาว่า “มึงโกรธไปเถอะ เดี๋ยวกูปล่อยคลิปความดี เดี๋ยวมึงก็หายโกรธ”