19 พ.ค.2564 ครบรอบ 11ปี เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองจากการชุมนุมของกลุ่มนปช. จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ระหว่างการกระชับขอคืนพื้นที่ ก่อนจะนำไปสู่การเผาห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์ เซนเตอร์วัน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ช่อง 3 สาขาธนาคารบางแห่งในกรุงเทพ ฯ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯได้โพสต์เฟซบุ้คถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ” ดิฉันขอร่วมรำลึกถึงความสูญเสียของประชาชนจากการสลายชุมนุมปี 2553 ที่ประชาชนเป็นผู้ถูกกระทำจากฝ่ายรัฐ และขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วม #คืนความจริง ให้กับทุกคนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในวันนั้น ดิฉันขอวิงวอนว่าความเจ็บปวดที่ครอบครัวของเหยื่อการเมืองไทยและผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายสำหรับประเทศไทยค่ะ #11ปี19พฤษภา”
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯที่บริหารประเทศในขณะนั้นให้สัมภาษณ์ท็อปนิวส์ว่า ไม่อยากตอบโต้น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือใครก็ตามที่หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูด เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจได้ทั้งหมดในเวลาเวลาสั้นๆ เรื่องนี้ต้องพูดกันยาวๆ เพราะการจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ในแต่ละเรื่องให้ชัดเจนมันลำบาก ถ้าพูดอะไรไปสั้นๆก็จะมีคนไม่เข้าใจมาตอบโต้อีก ยิ่งยุคนี้พูดอะไรไปก็ถูกนำไปบิดหมด
ขณะที่นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในยุคนั้นกล่าวกับท็อปนิวส์ว่า คุณยิ่งลักษณ์พูดแต่ในสิ่งที่ฝ่ายตนเองถูกกระทำ แต่ไม่ได้พูดในสิ่งที่ทำกับประเทศนี้เลย ทั้งเรื่องโกง เรื่องความเสียหายจำนำข้าว บ้านเมืองลุกเป็นไฟเกือบเป็นรัฐล้มเหลว การโกงจำนำข้าวจนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่ามีการโกงและก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาล การเป็นเผด็จการเสียงข้างมาก ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อพวกพ้อง การเสนอพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอยไม่อายฟ้าดิน ซึ่งกฎหมายนั้นถ้าปล่อยให้ผ่านออกมาได้บ้านเมืองจะเหลวแหลก ระบบนิติธรรมนิติรัฐจะเสียหายล้มเหลวหมด เพราะมีจุดมุ่งหมายให้พี่ชายพ้นผิดและเรียกเอาทรัพย์สินคืน ยืนยันว่าการดำเนินการของรัฐบาลในขณะนั้นทำไปด้วยความสมควรแก่เหตุ มีความถูกต้อง หากย้อนกลับไปเราก็จะทำแบบนั้น
/////////////////////////