นับตั้งแต่เกิดเรื่องราวมากมาย โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งภายในรัฐบาลระหว่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ส่งผลให้เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอน ภาพลักษณ์ของรัฐบาลก็ตกต่ำมาตลอด อันเป็นผลมาจากการขบเหลี่ยมเกาเหลาขัดแย้งกันเองภายในเรือแป๊ะ ส่งผลให้ความมั่นคงของรัฐบาลเริ่มมีผลกระทบ เห็นได้ชัดจากเสียงในสภาที่ระยะหลัง รัฐบาลเจอปัญหาที่แก้ไม่ตกเจอโจทก์ยากที่ตีไม่แตก บ่อยครั้งระยะหลังจึงเห็นข่าวสภาล่มอยู่ตลอด ส่วนหนึ่งแม้จะรู้ดีว่ามาจากฝ่ายค้านที่จ้องเล่นเกมส์การเมืองนับองค์ประชุมแก้เผ็ดรัฐบาล ไม่ยกมือบ้างลุกไปห้องน้ำบ้างหาจังหวะทีเผลอบ้าง แต่ปัจจัยหลักถ้าส.ส.รัฐบาลอยู่ครบผู้แทนรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่เพราะขาดความรับผิดชอบในหน้าที่นี้แหละที่ทำให้ถูกฝ่ายค้านวางยาจนสภาล่มทุกทีไป หลายเหตุอุปสรรคหลายปัจจัยถาโถมถึงรัฐบาล ประเด็นร้อนเรื่องยุบสภาจึงกลายเป็นกระแสตามหลอกหลอนพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลนี้ไม่หยุด เพราะเหตุที่มีปัญหาสารพัด
แต่ล่าสุดหลังการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ก็ออกมาดับไฟพวกนั่งเทียน แสดงความชัดเจนประเด็นเรื่องยุบสภา พูดสั้นๆแต่ดังชัด “ไม่มี ไม่มี” จบข่าวมั่วจากคนไม่หวังดี พร้อมยืนยันจะตัดสินใจไฟเขียวกดปุ่มยุบสภาเมื่อไหร่ วัน ว. เวลา น. ตอนไหนก็ต้องดูจากสถานการณ์ในช่วงนั้นๆเป็นหลัก แถมร่ายยาว “เหตุ” และ “ผล” ในการอยู่ต่อให้ครบเทอมแบบยาวๆ ” ก็สุดแล้วแต่สถานการณ์ การเมืองก็ว่ากันไป เราก็อยู่ ไปตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ บ้านเมืองมีปัญหามากมายต้องแก้ไข อยากให้ดูว่าเราแก้ปัญหาอะไรบ้าง อะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรคค้างคากันมาในอดีต ก็แก้ไขไปเยอะและสิ่งที่ใหม่ๆก็เดินหน้าไปเยอะ เช่นการลงทุน การหารายได้ใหม่เข้าประเทศ เราก็ทำทั้งสองทาง ถ้าปัญมันตีกันทุกวันก็ไปไม่ได้ เราก็ต้องดูว่าแต่ละปัญหาทับซ้อนแค่ไหน นายกฯ มีสองบทบาท คือใช้งบประมาณ และ รักษาเสถียรภาพการเงินการคลังให้เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ” นายกฯเปิดใจ พร้อมยืนยันไม่คิดย้ายพรรคไปไหน แม้จะมีข่าวพรรคไทยสร้างสรรค์ตั้งพรรครอรับหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพลังประชารัฐ
จากนี้ยังไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าของพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นเช่นไร และเป้าหมายการอยู่ครบเทอมที่วางไว้จะเป็นไปได้ตามนั้นหรือไม่ อย่าลืมว่าแม้จะเป็นรัฐบาลที่บริหารประเทศมาเกือบ 7 ปี แต่รัฐบาลประยุทธ์สมัย 2 มีส.ส.สนับสนุนเพียง 276 เสียงจากทั้งหมด 500 เสียง ครั้นจะหวังไปพึ่งสภาสูงอย่างส.ว. 250 คน ก็ไม่ใช่ว่าจะพึ่งพาได้ทุกเรื่อง ลำพังเฉพาะเสียงผู้แทนแค่ 270 เศษก็ถือว่าปริ่มน้ำมาก จะเสนอกฎหมายสลักสำคัญอะไร พิจารณาพ.ร.บ. กับ พ.ร.ก. เรื่องไหนก็ต้องเชคเสียงกันให้ดีๆ เพราะถ้าเกิดสภาล่มไม่ครบองค์ประชุมบ่อยๆ ตรงนี้ก็เป็นแรงกดดันนำไปสู่การยุบสภาได้ง่ายๆ อุตส่าห์หาเสียงเลือกตั้งกันมาแทบตาย แต่สุดท้ายดันมาตกม้าตายเพราะสภาล่ม ประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะจารึกในบัญชีหนังหมาตกสวรรค์เพราะขาดความรับผิดชอบ เรื่องเล็กๆแบบนี้พล.อ.ประยุทธ์ต้องกำชับให้หนัก พล.อ.ประวิตรต้องสั่งลูกพรรคให้ดี อย่าหนีสภาอย่าแตกแถว
นอกเหนือจากเรื่องสภาล่มแล้วการเมืองภายในพลังประชารัฐ พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องคุมให้อยู่ อย่าเกรงใจลุงป้อมมากจนชาติพัง บ้านเมืองต้องมาก่อน ผลประโยชน์ 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ต้องตามหลัง ไม่งั้นพังไปหน้าอยู่ไปมีแต่เสื่อมทรุดลงทุกวัน ประเด็นร.อ.ธรรมนัสก็ต้องวางกรอบวางแนวให้ชัด ไปต่อไหวไหมทำงานร่วมกันอย่างไร เส้นทางยังอีกยาวการศึกมีอีกมากสงครามใหญ่ยังรออยู่ ขุนศึกไม่สนองจอมทัพต้องตัดหัวทิ้ง แต่ถ้ารู้ตัวว่าผิดกลับตัวกลับใจใหม่ก็ควรให้อภัย แม้จะถูกมองเป็นหอกข้างแคร่เป็นเสี้ยนตำเท้า แต่ถ้าหลงผิดแล้วคิดได้ก็ควรให้โอกาสล้างบาปลบพิษสักครั้ง ถ้ารอบหน้ายังกร่างยังแว้งกัดอีกค่อยฟันคอทิ้งก็ยังไม่สาย แมวสีเทาแม้เนื้อตัวสกปรกก็ยังจับหนูได้ เลือกตั้งภายหน้าต่อให้ร.อ.ธรรมนัสเคยก่อกรรมทุรยศอย่างไรแต่พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังต้องเรียกใช้บริการ
ปมร้อนการเมืองตอนนี้ระยะสั้นๆก็เรื่องสภาล่ม ระยะยาวก็ต้องดูเรื่องแก้กฎหมายลูกเลือกตั้ง 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. กับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าสุดท้ายพรรคใหญ่กับพรรคเล็กจะคุยกันจบพบกันครึ่งทางได้อย่างไร ที่หลังกฎหมายลูกโปรดเกล้าฯลงมาแล้วเสร็จ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมายระบุว่าจะมีแรงกดดันจากทุกฝ่ายถาโถมให้พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภาเพราะกติกาเลือกตั้งเสร็จแล้ว ตรงนี้เนติบริกรคาดหมายว่าอย่างช้าที่สุดน่าจะเป็นราวเดือนก.ค.ปีหน้า อีกประเด็นร้อนที่มิอาจมองข้ามก็คือเรื่องการตีความอายุ 8 ปีของนายกฯ ที่ฝ่ายค้านฝ่ายเห็นต่างปักหมุดว่า 24 ส.ค.2565 พล.อ.ประยุทธ์จะต้องลุกจากตำแหน่งเพราะครบวาระการทำหน้าที่ตามกรอบรัฐธรรมนูญที่ระบุ นายกฯห้ามเป็นนายกฯเกิน 8 ปี โดยนับการขึ้นเป็นนายกฯตั้งแต่ครั้งแรกหลังรัฐประหาร คือ 24 ส.ค.2557 แต่ฝ่ายเห็นต่างเห็นแย้งว่าพล.อ.ประยุทธ์ต้องได้ไปต่อเพราะการมาเป็นนายกฯตอนนั้นมาตามบทเฉพาะกาลจากการปฏิวัติไม่ใช่ตามรัฐธรรมนูญด้วยเหตุนี้จึงเอาข้อกำหนดเป็นนายกฯไม่เกิน 8 ปีมาใช้กับพล.อ.ประยุทธ์โดยนับตั้งแต่ 24 ส.ค.2557 ไม่ได้ นี้คือ 2 ประเด็นร้อนระยะยาวที่คนรักลุงตู่ต้องลุ้น แต่เชื่อแน่ว่าถ้าองค์ประกอบแบบนี้ สิ่งแวดล้อมแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาวจนครบวาระจบปี 2566 แน่นอน
/////////////////////
