No data was found

ทางสองแพร่งของพล.อ.ประยุทธ์ กลางกระแส “พรรคสำรอง-พรรคอะไหล่”

กดติดตาม TOP NEWS

อนาคตที่ลุงตู่ต้องเลือกเอง จูบปากธรรมนัสแล้วปักหลักอยู่พลังประชารัฐต่อหรือพอแค่นี้หนีหอกข้างแคร่แล้วไปหาพรรคการเมืองใหม่ที่สบายใจกว่า ลุ้นเส้นทางการเมืองพล.อ.ประยุทธ์จะเดินต่ออย่างไร ไปทางไหนดี

ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปรียบไปก็เหมือนแก้วร้าวที่อยากจะประสาน ต่อให้มีกาวดียี่ห้อ “ลุงป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาเชื่อมต่อติดกลับคืนอย่างไรก็ยากที่จะเหมือนเดิม เพราะสาเหตุแห่งปัญหาและที่มาของต้นเหตุนั้นหนักหน่วงรุนแรงเหลือเกิน คือการวางแผนสมคบคิดกันล้มสร.1 ระหว่างอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วง 31 ส.ค. – 4 ก.ย. ที่ผ่านมา นำไปสู่การตอบโต้แตกหักทางการเมืองหลังพล.อ.ประยุทธ์สั่งปลดร.อ.ธรรมนัสกับคู่หูตาโตอย่าง “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ พ้นจากตำแหน่งรมช.เกษตรและสหกรณ์ กับ รมช.แรงงานในรัฐบาล

หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็เกิดปัญหากระทบกระทั่งขัดแย้งกันมาตลอดระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับร.อ.ธรรมนัส ส่งผลกระทบกระเทือนถึงเสถียรภาพรัฐบาล ความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ของนายกฯและฝ่ายบริหารมาโดยตลอด เพราะเกิดปัญหาขบเหลี่ยมเฉือนคมระหว่างรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคแกนนำอันดับ 1 ที่สนับสนุนรัฐบาล ที่ถือเป็นเรื่องผิดปกติทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาปัญหาของรัฐบาลส่วนใหญ่มักเกิดจากความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ขัดแย้งกันผลประโยชน์ไม่ตรงกันงัดกัน แต่มารอบนี้ปัญหาดันผุดมาจากภายใน “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อในตน” เกิดเกาเหลางัดกันของ 2 ผู้ยิ่งใหญ่คนสำคัญฝ่ายบริหาร คนนึงเป็นนายกฯเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดฝ่ายบริหาร อีกคนเป็นนักการเมืองดาวรุ่งเป็นแม่บ้านพรรคการเมืองเบอร์หนึ่งของรัฐบาล

งานนี้คนที่เวียนหัวปวดกบาลที่สุดหนีไม่พ้นคนกลางอย่างลุงป้อม เพราะแผนเดิมที่วางไว้ในสมองกับความจริงที่ปรากฏกลับตาลปัตรกันหมด เดิมวางตัวร.อ.ธรรมนัสมาคุมการเลือกตั้งวางแผนผังให้เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันช่วยเหลือนายกฯแบ่งเบาภาระทางการเมือง ถึงแม้จะได้ชื่อว่า “แมวสีเทาตัวสกปรก” แต่ก็จับหนูทำภารกิจได้สำเร็จไม่ต่างจาก “แมวบริสุทธิ์ขนสีขาว” อาจจะเพราะโชคร้าย ดวงไม่สมพงษ์ อุปนิสัยใจคอไม่ถูกกัน ไม่กินเส้นกันมาก่อน แถมทั้งคู่ยังเป็นคนบุคคลิกใจร้อน เด็ดขาด นักเลง ยอมหักไม่ยอมงอเหมือนกัน พอมาเจอบ่างช่างยุ เจอคนยั่วยุเป่าหู เจอคนละฝ่ายคนละก๊วนกัน เรื่องที่ง่ายก็กลายเป็นยาก ประเด็นสิวๆก็กลายเป็นฝีหัวช้าง หนำซ้ำต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดลาวาศอกยอมหักไม่ยอมงอ ที่สุดปัญหาเล็กๆก็เลยบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ มีเรื่องมีราวสารพัดขัดแย้งฟัดกันไม่จบ ปัจจุบันลึกๆจริงๆก็ยังไม่มีใครเดาใจได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์คิดกับร.อ.ธรรมนัสยังไง จะใช้งานผู้กองแบบไหน จะเดินหน้าจับมือไปต่อกันอย่างไร ล่าสุดคำพูดที่ออกจากปากพล.อ.ประยุทธ์คอมเมนต์ถึงร.อ.ธรรมนัสแม้ไม่ถึงกับชื่นมื่นดูดดื่ม แต่ก็ไม่ได้ปิดทางทำงานร่วมกันซะทีเดียว “คุยไปครั้งหนึ่งมั้ง เคยมาคุยด้วยครั้งหนึ่ง ซึ่งก็ดี ก็คุยกัน…..ถ้าไม่มีใครยุแยงตะแคงรั่ว มันก็ดีอยู่มั้ง” บิ๊กตู่พูดถึงน้องนัส

ประเมินทางออกของพล.อ.ประยุทธ์หากหวังจะดับขัดแย้งทางการเมืองปิดจุดอ่อนเกาหลารัฐบาลเรือแป๊ะกะพลังประชารัฐ หนทางดับทุกข์ออกจากปัญหานี้ก็มีทาง 2 แพร่ง ทางแรกก็คืออยู่กันอย่างนี้ต่อไประยะสั้นเฉพาะหน้าก็จูบปากหาแนวทางเออออห่อหมกกันไปก่อน 26 พ.ย.ก็มีนัดสังสรรค์ปาร์ตี้ราตรีจูบปากกันที่ สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ตอนนั้นก็ส่งสัญญาณกันให้ชัดจะเอาไงต่อ อย่าให้คาราคาซังจนเป็นขี้ปากชาวบ้าน ต้องหาทางคุยกันให้เร็ว ไปต่อได้ก็ไปต่อเพราะยังมีเรื่องให้ต้องเผชิญศึกสู้สงครามกันอีกมาก เลือกตั้งอบต. พัทยา กรุงเทพ สนามใหญ่ ผ่านกฎหมายสำคัญๆ พ.ร.ก. พ.ร.บ. อภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชุมเอเปค วางโรดแมพเลือกตั้ง สารพัดจิปาถะต้องรวมพลังจับมือกัน ถ้าคุยกันแล้วไปต่อไหวก็ไปถ้าไปไม่ไหวอาจจะใช้สูตรปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค เอาร.อ.ธรรมนัสไปอยู่ในที่ๆควรอยู่ จุดที่ควรเป็น ส่วนตำแหน่งเลขาธิการแม่บ้านพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ก็ค่อยหาคนอื่นที่พล.อ.ประยุทธ์ไว้เนื้อเชื่อใจมารับผิดชอบแทน อาจจะเป็น “เสี่ยเฮ้งค์” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน คนใหม่มาแรง หรือ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่เป็นคนเก่าหน้าเดิม หรือคนอื่นๆนอกจากนี้ก็สุดแล้วแต่

อย่างไรก็ตามหากไปต่อไม่ไหวไปกันไม่ได้จริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็อาจต้องเลือกทางที่สองคือไปหาพรรคใหม่อยู่ไปสร้างบ้านหลังต่อไปที่น่าอยู่กว่านี้ ล่าสุดโพลล์ครูของสถาบันวิจัยและพัฒนาสังคมเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย 90.6 % เห็นควรให้พล.อ.ประยุทธ์ตั้งพรรคการเมืองใหม่ ที่มีนักการเมืองคุณภาพ สอดคล้องกับบรรดากองเชียร์และเอฟซีของลุงตู่ที่อยากให้ตัดปัญหาหอกข้างแคร่แก้ปมเสี้ยนตำเท้า ด้วยการทิ้งลุงป้อมหนีผู้กองแป้งไปหาบ้านใหม่อยู่ จะได้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะมีใคนทรยศมาแทงข้างหลังอีก ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวหาทางออกกับ “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 พี่กลางบูรพาพยัคฆ์วางตัว “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทย ตั้งพรรคอะไหล่พรรคสำรองเผื่อเกิดอุบัติเหตุกับพลังประชารัฐ จะได้มีเสื้อสวมทันทีมีที่ให้ไปต่อ แต่หลังเกมส์เปลี่ยนเพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลือกตั้งใหม่ จากบัตรใบเดียวเขตใหญ่ 350 คนปาร์ตี้ลิสต์ 150 คน ไปเป็นบัตร 2 ใบ เขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน พรรคเล็กเกิดยากพรรคปลาซิวปลาสร้อยโตลำบาก งานนี้เลยไม่รู้ว่าพรรคอะไหล่จะไปต่อยังไงพรรคสำรองจะไปทางไหนดี ล่าสุดก็มีชื่อพรรคไทยสร้างสรรค์จากบางสื่อบางค่ายเอามาปั่นในแวดวงการเมือง ใส่ชื่อรวมพลเป็นแกงโฮ๊ะกันมาหมด ระบุแกนนำเป็น 6 รัฐมนตรีประกอบด้วยก๊วนสามมิตร นำโดย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจรมว.อุตสาหกรรม, สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม , อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผสมกับก๊วนสายตรงไทยคู่ฟ้าอย่าง ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส , สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง รวมกับ ปลัดฉิ่ง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตพิทักษ์ 1 แม้กระทั่งคนโดนพักเล่นการเมืองอย่าง “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการก็มาด้วย

มีข่าวลอยลมมาแบบนี้แต่เรื่องจริงคงไม่ง่าย พรรคการเมืองไม่ใช่ขนมเค้กจะให้แยกกันยังไง ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ตั้งพรรคใหม่ พล.อ.ประวิตรจะไปด้วยไหม ส.ส.ต้องแบ่งกันยังไง ทำแบบนั้นมีหวังพรรคแตก เละสนิท ภาพที่ออกมาก็คงไม่สวยเหมือนเด็กเล่นขายของ เรื่องตั้งพรรคใหม่ย้ายบ้านใหม่พูดเหมือนง่ายแต่ทำจริงนะมันยาก กว่าจะตั้งพรรคกว่าจะเขียนนโยบายกว่าจะหาสมาชิกกว่าจะสร้างความเชื่อมั่น ทั้งคนทั้งแบรนด์ล้วนใช่เวลา ต่อให้เป็นระดับนักการเมืองเกรดพรีเมี่ยมแฟนคลับล้นอย่างพล.อ.ประยุทธ์ก็เถอะ จู่ๆจะให้เปลี่ยนม้ากลางศึกสลับเรือแป๊ะกลางสมุทรคงไม่สามารถทำได้ง่ายๆ แทนที่จะหาจุดร่วมหาทางออกกันแบบละมุนละม่อม ถ้าเลือกแบบนั้นก็เรียกว่าหักกันเลย ไม่เผาผีกันอีกต่อไป พล.อ.ประวิตรเคยพูดหลายครั้งว่าระหว่าง “ลุงตู่-น้องนัส” คุยกันแล้วไม่มีแตกหักแตกแยกกัน ล่าสุดหลังมีข่าวพรรคอะไหล่-พรรคสำรอง ข่าวลือข่าวปล่อยอุตลุตในวงการ พล.อ.ประวิตรก็ยังยืนกรานน้องตู่ไม่มีทางหอบผ้าหนีไปอยู่พรรคใหม่ หัวเด็ดตีนขาดก็มีแต่พลังประชารัฐแค่พรรคเดียว ” นายกฯมีอยู่พรรคเดียว นายกฯจะไปตั้งพรรคอะไรไม่ไปหรอก จะมาเมื่อไหร่ก็มาเลย โธ่เอ้ย ไปถามคนออกข่าวดีกว่า พรรคก็สนับสนุนนายกฯอยู่แล้ว เราก็อยู่กับนายกฯอยู่แล้ว ข่าวแบบนี้ออกมาได้อย่างไร เป็นการพูดกันไปเอง ไปหาคนที่ปล่อยข่าวเรื่องนี้แล้วมาบอกผมด้วย ….ไม่มี (พรรคสำรอง) มีพรรคเดียวก็เอาตัวให้รอดเถอะ” พล.อ.ประวิตรระบุ จากนี้ก็ต้องจับตาดูว่าอนาคตพล.อ.ประยุทธ์จะเอาอย่างไรไปต่อกับพลังประชารัฐ หรือพอแค่นี้แล้วไปหาพรรคใหม่
////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมียนมา ร้อนจัดทำผู้เสียชีวิตกว่าสิบคนทุกวัน
โซเชียลซัดเละ “ส.ศิวรักษ์” ดีเบต 2475 เน้นความเชื่อ ไร้ข้อมูล กล้ายกหางตัวเองเป็นปัญญาชนสยาม
อินโดนีเซีย เผชิญโคลนถล่มและน้ำท่วมครั้งใหญ่
รัสเซีย ขึ้นบัญชีผู้นำยูเครนเป็นอาชญากรที่ถูกหมายหัว
โซเชียลแซวยับ "พิธา" นำทีมก้าวไกล ร่วมงานสโมสรสันนิบาต ชีวิตสวนทางติ่งส้มหมิ่น จาบจ้วง สถาบันฯต้องนอนคุก
"อัษฎางค์" ย้อนชีวิต "โน้ส อุดม" โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า "พอเพียง" แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน
คึกคัก ชาววังสะพุงสืบสานงานประเพณี แห่ต้นดอกไม้เครื่อง
ผู้ตรวจฯเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงเลือกสว.ส่อขัดรธน. หลัง "ทนายธีรยุทธ" ยื่นขอให้ชงศาลรธน.วินิจฉัย
โซเชียลสวนเดือด "กุ้ง ทัศนีย์" อดีตสส.เพื่อไทย ย้ายซบก้าวไกล โผล่วิจารณ์ระบบขนส่งฯเชียงใหม่
นิด้าโพล สะท้อนคนไทยมองแก้รธน.ไม่ควรยุ่งหมวด1-2 ไม่เชื่อทำการเมืองดีขึ้น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น