วันที่ 18 พ.ย.64 เวลา 09.10 น. ผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้ง จากชาวบ้านใกล้พื้นที่โบราณสถานค่ายเนินวง ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแอบลักลอบเข้ามา ตัดไม้พะยูง ในป่าชุมชน เขตโบราณสถาน ค่ายเนินวง พื้นที่รับผิดชอบกรมศิลปากร บริเวณทางเข้าวัดโยธานิมิต หลังได้รับแจ้ง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อเดินทางมาถึง พบบริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ช่วงริมถนนเส้นทางภายในโบราณสถานค่ายเนินวง แนวกำแพงหินศิลาแลงเก่าแก่อายุกว่า100 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นป่าไม้เบญจพรรณ ไม้หวงห้าม ทั้ง ไม้พะยูง ,ยางยา, ตะเคียน และ ถูกปลูกแซมด้วยต้นยางพารา ที่มีชาวบ้านในพื้นที่ปลูกไว้เพื่อทำประโยชน์ ขณะที่ประชาชน ที่อาศัยในพื้นที่ ใกล้กับที่เกิดเหตุ ปฏิเสธการให้ข้อมูล
จากการตรวจสอบ พบมี ต้นไม้พะยูง ถูกคนร้ายใช้เลื่อยโค่นล้ม อยู่บริเวณริมถนน คาดความสูงไม่ต่ำกว่า 10 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 70 ซม. วัดเส้นรอบวงจากตอไม้ประมาณ 2.70 ม.ซึ่งจากร่องรอยการลอบโค่นไม้พะยูง คาดว่าพฤติการณ์ของคนร้าย เน้นเลือกตัดไม้ที่มีช่วงลำต้นตรงยาว จากนั้นจึงขนย้ายออกไป ทิ้งเหลือไว้เพียงตอไม้ และปลายกิ่งต้นพะยูง จำนวนมาก เบื้องต้นทางเทศบาล ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจสอบและเก็บหลักฐาน ในการเร่งติดตามจับกุมคนร้าย
ขณะที่ นายสนั่น นาคแก้ว นายกเทศมนตรีเทศบาลค่ายเนินวง เจ้าของพื้นที่ เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของเทศบาลก็จริง แต่ผู้รับผิดชอบโดยตรง อยู่ในส่วนของกรมศิลปากร เนื่องจากเป็นพื้นที่โบราณสถาน มีทั้งส่วนของกำแพงค่าย ป้อมค่ายปืนใหญ่ พิพิธภัณฑ์พาณิชย์นาวี และเขต วัดโยธานิมิตนอกจากนี้ยังมีชาวบ้าน ใช้พื้นที่บางส่วนทำการเกษตร โดยถือสิทธิที่อาศัยมายาวนาน ก่อนขึ้นทะเบียนเป็นเขตโบราณสถาน จึงถือเป็นพื้นที่ทับซ้อน หลายฝ่ายทั้งหน่วยงานรัฐ และประชาชน ที่ทางเทศบาลฯ ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง จากกรณี คนร้ายลักลอบเข้ามาตัดไม้ พะยูง ดังกล่าว เบื้องต้นไม่พบมีผู้ร้องเรียน มาแสดงตัวเป็นเจ้าทุกข์กับกรณีดังกล่าวเลย แต่ทางเทศบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แจ้งทางตำรวจ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบแล้ว
นอกจากนี้ยังกล่าวย้ำเตือนว่า พฤติกรรมลักลอบตัดไม้หวงห้ามในพื้นที่โบราณสถาน หรือพื้นที่อื่นๆ มีความผิดตาม พรบ.คุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชาวบ้านในพื้นที่ต้องทำหน้าที่เป็นหูเป็นตา ไม่ควรนิ่งเฉย เนื่องจากพื้นที่ไม่ได้กว้างใหญ่มากมีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียง หลายหลังคาเรือน หากพบเบาะแส ให้รีบแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเป็นการป้องปราม ไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำขึ้นอีก
ทีมข่าวจันทบุรี สมจิตต์ ช่อพะยอม ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จังหวัดจันทบุรี