วันที่ 18 พ.ย. 64 ร.ต.อ.วิวัฒน์ นามอาษา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้ง มีเหตุงัดตู้เติมเงิน ที่ ต.หัวถนน อ.นางรอง จึงรุดไปตรวจสอบเป็นร้านค้าขายของชำภายในหมู่บ้าน พบตู้เติมเงินซึ่งสามารถเติมเงินโทรศัพท์มือถือ จ่ายค่าไฟฟ้า น้ำประปาได้ มีร่องรอยถูกงัดตู้ฯ เสียหายใช้การไม่ได้
สอบถามนางสมัย สงนางรอง อายุ 46 ปีเลขที่ 112 ม 10 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า เมื่อเวลา 02.00น. ของวันที่ 17 พ.ย. 64 ตอนนั้นตนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงเหมือนเหล็กงัดของหน้าบ้าน จึงมองออกมา เห็นคน กำลังเอาท่อนเหล็กยาวประมาณ 1 ช่วงแขน งัดตู้เติมเงินหน้าบ้าน จึงรีบเปิดประตูออกมา คนร้ายได้ยินเสียงเปิดประตูเปิด ได้รีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปต่อหน้า เมื่อมาตรวจสอบ พบว่าตู้เติมเงินถูกงัดเสียหายทั้งหมด เงินสดที่อยู่ภายในตู้ประมาณ 2,100 บาท หายไป จึงรีบแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ ก่อนรุ่งเช้าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว
นางสมัย กล่าวด้วยว่า เงินในตู้ประมาณ 2,000 บาท ที่หายไป ไม่เสียดาย เท่ากับตู้เติมเงินที่ชำรุดเสียหายใช้การไม่ได้ เพราะตนต้องผ่อนตู้เติมเงินเดือนละกว่า 2,000 บาท เป็นเวลา 7 ปี คิดเป็นเงินกว่า 90,000 บาท แต่ผ่อนไปได้ประมาณ 2 ปี ตู้กลับมาชำรุดเสียหาย จึงอยากจะฝากถึงคนร้ายให้หาอาชีพทำดีกว่าจะมาใช้วิธีแบบนี้ เพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นแล้ว คนก่อเหตุเองมีโอกาสติดคุกอีกด้วย
