ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวนี้ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 566/60 ซอยอัศวมิตร เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนางกิ่งแก้ว แซ่โง้ว หรือเจ๊ตุ้ย เจ้าของร้านทอง อ.สุวรรณ (เจ๊ตุ้ย) อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และ น.ส.ณัฐกานต์ แซ่โง้ว อายุ 30 ปี ลูกสาวกำลังดูแลเจ้าหลิงหลิง โดยมีเจ้าดำ พิโล่ และหลง ส่งเสียงเห่าเสียงดัง ส่วนหลิงหลิง ยังดูอ่อนเพลีย มีอาการตื่นกลัว และมีร่องรอยแผลจากการขีดข่วนบริเวณขาหลังข้างขวา
เจ๊ตุ้ย บอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสว่า หลังจากแจ้งให้รางวัลผู้พบเห็นและนำหลิงหลิง ส่งกลับบ้าน คนในครอบครัวและญาติ ก็ยังออกตามหาตามปกติ ตนและลูกสาวนอนไม่หลับติดต่อกันมาหลายคืน ตื่นเช้าก็ยังออกตามหาจนมืดค่ำ เพราะความเป็นห่วง โดยวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน เป็นวันที่ 5 ที่เจ้าหลิงหลิงหายออกจากบ้าน วันนี้ตั้งใจจะออกตามหาในตึกร้าง บ้านร้าง ในป่า และท่อน้ำ แต่ก่อนออกตามหาตนและสามีชวนกันไปไหว้ศาลหลักเมือง ท้าวเวสสุวัณ และพระพุทธโพธิ์ทอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองอุดรธานี อธิษฐานขอว่าถ้าหากยังไม่ตายก็ขอให้พบ แต่ถ้าตายแล้วก็ขอให้พบซากศพ ส่วนลูกสาวไปไหว้เจ้าปู่ย่าที่สวนสาธารณวังมัจฉาหนองบัว พระแม่ธรณีหน้าวัดโพธิสมภรณ์ ซึ่งตั้งใจว่าถ้าไม่พบหลิงหลิงภายในวันนี้ ก็จะหยุดตามหา เพราะคิดว่ามันคงจะบาดเจ็บและอดอาหารตาย
เจ๊ตุ้ย บอกต่อว่า ตนตามหาเจ้าหลิงหลิงไปตามถนนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ห่างจากบ้านในรัศมี 1 กม.จำได้ว่าวันแรกเคยไปตามหาหลิงหลิงภายในซอยแสงฉ่ำอุทิศ ถนนศรีสุข หน้าเรือนจำกลางอุดรธานี มีผู้หญิงเจ้าของร้านเสริมสวยภายในซอยบอกตนว่า เห็นหมาที่มีลักษณะคล้ายกับหลิงหลิง วิ่งหางตกหน้าตื่นเข้ามาในซอย แล้วนั่งอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวโกติ้ว หมาในซอยก็เห่า และในซอยก็มีหมาดุ 3 ตัวด้วย ตนและสามีจึงขับรถไปในซอยดังกล่าวอีกครั้ง พบชาวบ้านนั่งอยู่หลายคน จึงเดินไปสอบถามและแจกใบปลิวเผื่อจะมีคนพบเห็น หลังจากนั้นตนก็เดินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวโกติ้ว และเห็นพื้นที่รกร้างล้อมรั้วสังกะสีอยู่ตรงข้ามร้านก๋วยเตี๋ยวประมาณ 50-60 ตารางวา มีต้นไม้และเถาวัลย์ขึ้นรก ตนคิดว่าถ้าหลิงหลิงโดนรถชนบาดเจ็บมา หรือกลัวหมาดุภายในซอย ก็จะซุกตัวอยู่ในนี้ก็เป็นไปได้ จึงเดินเข้าไปแล้วเรียกชื่อ “หลิงหลิง” ไปด้วย
“ตอนที่เรียกชื่อหลิงหลิงครั้งแรก เห็นพุ่มไม้ไหวติงเหมือนมีสัตว์อยู่ แต่ไม่มีเสียงเห่าตอบออกมา ตนจึงเรียกอีกเป็นครั้งที่สอง ปรากฏว่าเจ้าหลิงหลิงค่อยๆ คลานออกมาพร้อมกับกระดิกหาง ครั้งแรกที่เห็นรู้สึกดีใจมากจนร้องไห้โฮ แล้ววิ่งเข้าไปกอดแล้วอุ้มหลิงหลิงออกมา ชาวบ้านที่เห็นต่างก็ตกใจว่าตนร้องไห้สะอึกสะอื้น พอตั้งสติได้ก็รีบโทรหาลูกสาว จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความดีใจ และตรวจพบว่ามีรอยขีดข่วนเป็นแผลยาวแต่ไม่ลึกบริเวณขาขวาด้านหลัง แต่ไม่พบบาดแผลโดนกัดหรือโดนรถชน แต่หลิงหลิงหิวโซมากเพราะไม่ได้กินอาหารมา 5 วัน ขอบคุณชาวบ้านที่ให้ข้อมูล ขอบคุณประชาชนที่รักสุนัขทั่วประเทศที่โทรมาให้กำลังใจ และแนะนำทุกวิธีการตามหาสุนัข เงินรางวัลที่ตั้งไว้สำหรับผู้แจ้งเบาะแสจนพบหลิงหลิง หรือนำมาส่ง ก็จะนำไปทำบุญ และสนับสนุนอาหารให้ผู้เลี้ยงสุนัขจรจัด”
ส่วน น.ส.ณัฐกานต์ บอกด้วยความดีใจว่า ขณะกำลังไหว้ศาลเจ้าปู่ย่า อธิษฐานให้พบหลิงหลิง แม่ก็โทรมาหา แต่แม่ร้องไห้ไปด้วยทำให้ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่จับใจความได้ว่าพบหลิงหลิงแล้วที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวโกติ้ว ตนจึงรีบขี่จักรยานยนต์มาด้วยความดีใจ เห็นครั้งแรกก็รู้ว่าหลิงหลิงหวาดกลัว และหิวมาก จึงนำหลิงหลิงกลับบ้าน ให้อาหารสุนัขกินจนอิ่มแล้วอาบน้ำทำความสะอาด คนในครอบครัวต่างก็ดีใจที่พบหลิงหลิงยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อคืนนี้หลิงหลิงก็ไปเคาะห้องเข้าไปนอนด้วย คิดว่าหลิงหลิงคงจะไม่กล้าออกนอกบ้านอีกแล้ว
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี
