No data was found

กมธ.พัฒนาการเมือง สภา ตั้งคณะทำงาน 2 ชุดติดตามม็อบสามกีบ

กดติดตาม TOP NEWS

รัฐสภา 15 พ.ย.-  “ณัฐชา” ออกแอคชั่น ห่วงความรุนแรงในม็อบ ส่งคณะทำงานกมธ.พัฒนาการเมืองลงพื้นที่หาความจริง ปมใครยิงกระสุนใส่ผู้ชุมนุม ยันเร่งหาความจริง ไม่ได้แข่งตำรวจ

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของประชาชนเมื่อ 14 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า การชุมนุมเป็นทั้งสิทธิเสรีภาพและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญไทยวินิจฉัยว่า การปราศรัยในการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่เรียกร้องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยไม่สุจริต มีมูลเหตุจูงใจเพื่อล้มล้างการปกครองนั้น จะนำไปสู่ปฏิบัติการที่รุนแรงมากขึ้นของเจ้าหน้าที่ในการควบคุมฝูงชน ซึ่งที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติก็เลวร้ายมาตามลำดับ จากการส่งสัญญาณจากรัฐบาลในแต่ละครั้ง น่าเสียดายที่กลุ่มชนชั้นนำไม่เลือกที่จะรับฟังเสียงของประชาชนและปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย แต่กลับเลือกที่จะฉุดรั้งพัฒนาการของสังคมและการเมืองไว้ต่อไปผ่านกลไกต่างๆรวมถึงการใช้อำนาจตุลาการเป็นอีกเครื่องมือหนึ่ง การชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็คือแรงสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของประชาที่มีต่อท่าทีเหล่านี้โดยตรงและคงจะยกระดับขึ้นอีก

“ผมในฐานะผู้แทนราษฎรและประธานกมธ.ที่มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ อยากให้ผู้ที่มีอำนาจไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมคิดให้ดี ๆ เพราะเรามีบทเรียนที่เป็นความสูญเสียเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และเราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ประวัติศาสตร์หน้านี้ซ้ำรอยได้ด้วยการรับฟังและเปิดพื้นที่สำหรับความคิดความเห็นที่แตกต่าง จากการติดตามอย่างใกล้ชิด ทำให้เห็นแนวโน้มที่รุนแรงมากขึ้นของสถานการณ์โดยเฉพาะฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ไม่ได้มาด้วยความอดทนอดกลั้นหรือเพื่อระงับยับยั้งเหตุตามลำดับขั้นตอนที่มีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการขณะนี้ จะมาด้วยการบ่มเพาะความโกรธและเกลียดชังเหมือนกำลังมองผู้ชุมนุมเป็นอริราชศัตรู ซึ่งการหล่อเลี้ยงอารมณ์ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างไร้วุฒิภาวะเช่นนี้ถือเป็นสิ่งที่อันตราย” นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวว่า ด้วยความเป็นห่วงต่อสถานการณ์และตระหนักได้ถึงความไม่ปกติที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการจึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรก คือคณะทำงานติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่มีนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน เมื่อวานก็อยู่ในพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วย พบว่ามีการมาตรการรุนแรงต่อผู้ชุมนุมทันทีตั้งแต่เริ่มต้น ไม่มีการรับฟังหรือทำความเข้าใจเพื่อพยายามไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการยิงด้วยกระสุนที่ยังไม่ทราบชนิดว่าเป็นกระสุนยางหรือกระสุนจริง แต่สิ่งที่ระบุได้คือรูปแบบการยิงไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายซึ่งมีการยิงในระยะกระชั้นชิดของเจ้าหน้าที่และเป็นการยิงใส่ผู้ชุมนุม แนวปฏิบัติลักษณะนี้คือภาพสะท้อนตัวตนที่ชัดเจนของการปกครองที่มีผู้นำหลงอำนาจ ที่ไม่สามารถรับได้กับการเปิดให้สิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องปกติ เป็นพัฒนาการในทางที่เลวร้ายแตกต่างจากบรรยากาศในช่วงแรกที่มีการชุมนุมที่เจ้าหน้าที่มีความเข้าอกเข้าใจผู้ชุมนุมและมีท่าทีที่เปิดกว้างต่อการแสดงออกของประชาชนมากกว่านี้

นายณัฐชา กล่าวว่า สำหรับอีกชุดคือ คณะทำงานค้นหาความจริงจากเหตุความรุนแรงในพื้นที่ชุมนุม กรณีแรกคือการหาความจริงเหตุที่มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมหน้า สน. ดินแดงทำให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเดิมทีตำรวจใช้ภาพจากเพียงกล้องตัวเดียวในการค้นหาผู้ต้องสงสัยและความคืบหน้าทางคดีเป็นไปอย่างล่าช้ามาก แต่คณะทำงานของเราใช้ข้อมูลจากกล้องจำนวน 54 ตัว สามารถชี้ให้เห็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้และพบว่า อาจมีความเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทาง กมธ.ส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับตำรวจแล้ว ผลจากรายงานนี้สามารถส่งผลกดดันจนมีการขยับจากตำรวจในการติดตามคดี แม้ว่าจะยังไม่สามารถตอบข้อสังเกตในรายงานของ กมธ ได้อีกหลายจุดก็ตาม แต่เราก็จะเกาะติดเรื่องนี้ต่อไป

“สำหรับเหตุรุนแรงที่มีขึ้นในการชุมนุมวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่มีผู้ชุมนุมถูกยิงอย่างน้อย 3 ราย บางรายยังมีอาการสาหัส ยังไม่ทราบว่าเป็นกระสุนชนิดใด เป็นกระสุนยางหรือกระสุนจริง อย่างไรก็ตามกรณีนี้คณะทำงานของกมธ.จะทำงานทันที เราจะใช้คณะทำงานทั้ง 2 ชุดติดตามสถานการณ์และหาข้อเท็จจริงเพื่อรายงานให้คณะกรรมาธิการได้ทำหน้าที่เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน จากนี้คงต้องติดตามดูกันต่อว่า ระหว่างกมธ.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใครจะหาความจริงเพื่อคลายข้อกังขาให้กับสังคมได้ ที่พูดเช่นนี้ไม่ใช่การแข่งขัน แต่เราอยากกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอยู่ได้บนความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน”นายณัฐชา กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พัทยา คึกคัก ทหารอเมริกันยกพล ท่องเที่ยว พักผ่อนและนั่งดื่ม ตามบาร์เบียร์ชายหาดพัทยา ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างมาก
"รัฐบาล" ฝ่าแรงเสียดทานทำประชามติ "แก้รธน." แจกเงินดิจิทัล สกัด"กองทัพ"ทำรัฐประหาร
“จุลพันธ์” ย้ำไม่เห็นความเป็นห่วง "ดิจิทัลวอลเล็ต" พร้อมแจ้งบอร์ดธกส.เดินหน้าตามมติครม.
"เต้ มงคลกิตติ์" ดอดซบปชป.แล้ว เข้ากราบ "ชวน หลีกภัย" ยอมรับสาเหตุร่วมเป็นสมาชิกพรรค
ศาลอาญาเพิกถอนหมายจับ “สนธิญา” คดีหมิ่น “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์” นัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง 27 พ.ค.นี้
สศร.เตรียมมอบธง "Thailand Biennale ภูเก็ต ครั้งที่ 4" เปิดผลสำเร็จเบียนนาเล่เชียงราย  เงินสะพัด 2.4 หมื่นล้าน - จ้างงาน 8 พันอัตรา
"สุชาติ" เข้าทำเนียบ ดอดขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าพบนายกฯ หลังมีชื่อเสียบนั่งรมต.
"รัฐบาล" ห่วงประชาชน แนะดูแสุขภาพ ช่วงอากาศร้อนจัด "กลุ่มเสี่ยง" เลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
วธ.ปลื้มประชาชนแห่ร่วมงานวันสุดท้าย "ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์" ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กระตุ้นเศรษฐกิจชาติ
Top News เดินหน้าชำแหละซ้ำ ปัญหาสลากฯแพง ผู้พิการร้องเข้าไม่ถึงโควต้าโดนสมาคมฯปิดกั้น "นอท" โผล่ขายเย้ยกม.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น