นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงประเด็นราคาน้ำมันปรับขึ้นสูงว่า เกือบ 10 ปี ที่ตนเป็นหนึ่งในแกนนำภาคประชาชน ที่ได้ต่อสู้เรียกร้องให้มีการปฏิรูปพลังงานไทย ให้ลดราคาพลังงานมาโดยตลอด การต่อสู้ที่ผ่านมาพวกเราต้องแลกด้วยชีวิต การบาดเจ็บ การถูกตัดสินจำคุก และค่าเสียหายทางคดีแพ่ง ที่ผ่านมาประชาชนไม่เน้นในการเรียกร้องให้ลดภาษีต่าง ๆ ในโครงสร้างราคาพลังงาน แต่เราเรียกร้องให้ลดราคา โดยให้รัฐบาลลดกำไรที่ไม่ชอบธรรมของทุนพลังงาน เช่น ขอให้ยกเลิกราคาเสมือนนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปทั้ง ๆ ที่ไม่มีการนำเข้าจริง ลดค่าการตลาด การลดราคาเอทานอลที่แพงกว่าราคาตลาดโลกมาก การยกเลิกกองทุนน้ำมัน เป็นต้น แต่สุดท้าย ทุนพลังงานและรัฐบาลทุกชุด ไม่ยอมลดราคาพลังงานตามที่ภาคประชาชนเรียกร้องเลย
นพ.ระวี กล่าวว่า ในช่วงต้นที่โควิด 19 ระบาดไปทั่วโลก เกิดการปิดเมืองปิดประเทศ ทำให้การคมนาคมทั่วโลกหยุดชะงัก มีการใช้น้ำมันน้อยลงมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างรุนแรง จนถึงขั้นติดลบ ไม่มีราคาเลย ต่อมาเมื่อประเทศต่าง ๆ ฉีดวัคซีนโควิดไปมากแล้ว เริ่มมีการเปิดประเทศ ส่งผลให้ การคมนาคมเริ่มฟื้นขึ้น ราคาน้ำมันจึงขยับสูงขึ้น ตนคาดการณ์ว่า ปัญหาราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นเป็นเรื่องชั่วคราว พอราคาน้ำมันดิบดี กลุ่มโอเปกก็จะเร่งผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ตามกำลังผลิตเดิม อีกไม่นานราคาจะลดลง เพราะแนวโน้มโลกหันไปใช้รถหรือเรือไฟฟ้ามากขึ้น ความต้องการน้ำมันจะน้อยลง ในที่สุดน้ำมันจะเหลือล้นตลาดโลก ราคาก็จะตกมาเอง
“ในสถานการณ์การระบาดโควิด19 ส่งผลให้คนไทยตกงาน , ปิดกิจการ , กิจการเจ๊ง , ไม่มีรายได้ อย่างไม่เคยมีมาก่อน และน้ำมันเป็นสายเลือดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ ในสภาวะนี้รัฐบาลควรดำเนินการคือ ตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร โดยการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตลง 5 บาทต่อลิตร ระยะเวลา 3 เดือน และถ้าราคาน้ำมันดิบดูไบ เกิน 87.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ก็ใช้เงินกองทุนน้ำมันมาพยุงราคา ไม่ให้เกิน 25 บาทต่อลิตร ถ้าเงินกองทุนน้ำมันหมด ก็ให้กู้เงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อพยุงราคาไม่ให้เกิน 25 บาทต่อลิตร นอกจากนี้หากเงินกู้ 20,000 ล้านบาทหมด ให้รัฐบาลลดการเก็บภาษีกองทุนอื่น ๆ อย่างไรก็ตามกลุ่มขนส่งกว่าพันคันกำลังได้รับความเดือดร้อนในการขึ้นราคาน้ำมัน และได้ประกาศดีเดย์ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ หากรัฐบาลยังไม่เร่งแก้ปัญหา จะมีการนำรถออกมาปิดถนนหลายเส้นทาง ฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบตัดสินใจแก้ปัญหา ก่อนที่เรื่องนี้จะไปกระทบกับระบบเศรษฐกิจ” นพ.ระวี กล่าว
