“นายกฯ” สั่งทำแผนมาตรการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ หลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ใกล้ชิด

"นายกฯ" สั่งทำแผนมาตรการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ หลังเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ใกล้ชิด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายทุกภาคส่วนราชการจัดเตรียมมาตรการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ หลังการเปิดประเทศอย่างปลอดภัย 1 พฤศจิกายน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย จัดทำข้อกำหนดการดำเนินงาน เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลกิจการประเมิน ติดตาม และเฝ้าระวัง สถานประกอบการต่าง ๆ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

ส่วนที่ 1 Self Certification : ให้สถานประกอบการทุก Setting ลงทะเบียน ประเมินตนเองบนระบบ Thai Stop COVID Plus เพื่อยกระดับตามมาตรการ COVID Free Setting และให้ทุกสถานประกอบการติด E-Certificated ในจุดที่ผู้ใช้บริการเห็นเด่นชัด

ส่วนที่ 2 People Voice : ประชาชนสามารถประเมิน แนะนำ ติชม ร้องเรียน สถานประกอบการในพื้นที่ COVID Free Area/Zone ผ่านช่องทาง QR Code ใน E-Certificate , Website Thai Stop COVID Plus และ เฟซบุ๊ก “ผู้พิทักษ์อนามัย (COVID Watch)” และ

ส่วนที่ 3 Active Inspection : จัดตั้งคณะกรรมการ ร่วมตรวจ กำกับ COVID Free Area/Zone ภาครัฐและภาคประชาชน ตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ กำกับมาตรการตาม พรบ.การสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดทำ Checklist และเป้าหมาย โดยตรวจสอบข้อมูลบน Thai Stop COVID Plus ให้คำแนะนำ ตักเตือน กิจการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด (พรบ.การสาธารณสุข พรบ.โรคติดต่อ พรบ.สถานบริการ และ พรก.ฉุกเฉิน)

ทั้งนี้ เมื่อมีการเปิดประเทศแล้ว คณะกรรมการบูรณาจากทุกภาคส่วนก็จะดำเนินการตรวจสอบและประเมินทุก 2 สัปดาห์ รวมทั้ง แต่ละหน่วยจะมืการจัดทำแผนเผชิญเหตุและความพร้อมทรัพยากร เช่น โรงพยาบาลสนาม พื้นที่สำหรับการกักตัว/แยกกัก เวชภัณฑ์/ยา ด้วย

สำหรับยอดการฉีดวัคซีนสถิติการฉีดวัคซีน ภาพรวมทั่วประเทศ ณ 28 ต.ค. นี้ แบ่งเป็นการฉีดเข็มแรกแล้ว 57.63% เข็มสอง 41.47 % กทม. และปริมณฑล เข็มแรก สูงสุด 88.28% และเข็มสอง 64.85%

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมั่นใจระบบสาธารณสุขของไทยต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยในการเตรียมมาตรการรองรับในการป้องกันตนเองหลังเปิดประเทศ ประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ Universal Prevention เปิดบ้าน เปิดเมือง เปิดประเทศ ซึ่งจะผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งการเปิดประเทศแล้วไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่จะอยู่ในระดับที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจ และขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการรองรับและระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็ง ซึ่งขณะนี้ หลายประเทศจับตาดูไทยและจะจัดทำพื้นที่ท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ตามรูปแบบของประเทศไทยด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เอกนัฏ" ส่งทีมสุดซอย ขยายผล เตรียมส่งดีเอสไอ ฟันเครือข่ายลักลอบฝังกลบขยะพิษในที่ดิน 2 แปลง จ.ฉะเชิงเทรา รวมกว่า 70,000 ตัน
"บิ๊กเล็ก" รับเงื่อนไข ให้ตัวแทนจีน-สหรัฐฯ ร่วมสังเกตการณ์ประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ที่มาเลเซียวันสุดท้าย เฉพาะ 7 ส.ค. ยันไม่กระทบหลักหารือทวิภาคี
มุกดาหาร ชวนเที่ยวชม 'ชั่งทองฟาร์ม' แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและธรรมชาติ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
"กองทัพภาคที่ 2" แจงกรณี "ช่องอานม้า" ยันทหารไทยขับไล่ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำพ้นหมดแล้ว "ทหารกัมพูชา" ลาดตระเวนเฉพาะเขตตัวเอง
'รมว.ปุ๋ง'รุดให้กำลังใจ ผู้อพยพจากชายแดนไทย–กัมพูชา
“เสธ.เบิร์ด” ซัดผู้นำกัมพูชา เห็นแก่ตัว ผลักดันความรับผิดชอบทหารแนวหน้าเสียชีวิต จี้ประชาคมโลกกดดัน ควรเคารพสิทธิมนุษยชน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​