AFP รายงานว่าการเลือกตั้งเมียนมาเปิดฉากขึ้นเมื่อเวลา 06.00 นาฬิกาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (อาทิตย์ที่ 28 ธค.) ท่ามกลางมาตรการคุมเข้ม มีผู้เดินทางไปใช้สิทธิบางตา ต่างจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2563 ที่ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งต่อแถวยาวเหยียด แต่ครั้งนี้ นักข่าวและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งมีจำนวนมากกว่าผู้มาใช้สิทธิ
การเลือกตั้งรอบแรกจากทั้งหมดสามรอบมีขึ้นที่นครย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์ และกรุงเนปีดอว์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร ท่ามกลางการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าพรรคสหภาพสามัคคีและการพัฒนา (Union Solidarity and Development Party) ที่สนับสนุนกองทัพ จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าจะเป็นเพียงการเปลี่ยนโฉมหน้าของระบอบการปกครองแบบเผด็จการทหารเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โบ ซอว์ วัย 63 ปี ซึ่งเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งคนแรกที่หน่วยเลือกตั้งที่นครย่างกุ้ง ใกล้กับบ้านพักของอองซานซูจี กล่าวว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมากและจะนำสิ่งที่ดีที่สุดมาสู่ประเทศและว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกหลังเลือกตั้งควรเป็นการฟื้นฟูความสงบสุขและความปลอดภัยของเมียนมา”
ขณะที่โมโม มยินต์ ชาวบ้านที่เมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งต้องหลบหนีการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมานานถึง 2 เดือนกล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ที่การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม” พร้อมตั้งคำถามว่าจะให้พวกเธอสนับสนุนการเลือกตั้งที่จัดตั้งโดยกองทัพที่ทำลายชีวิตของพวกเธอได้อย่างไร
ทั้งนี้รัฐบาลทหารเมียนมากำลังดำเนินคดีกับบุคคลมากกว่า 200 คนในข้อหาขัดขวางการเลือกตั้ง รวมถึงการประท้วงหรือการวิพากษ์วิจารณ์
ด้านโวลเคอร์ เทิร์ก ผู้อำนวยการฝ่ายสิทธิมนุษยชนยูเอ็นกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
“การเลือกตั้งเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมของความรุนแรงและการปราบปรามอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม พลเอกมิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาได้บอกกับผู้สื่อข่าว หลังจากลงคะแนนเสียงที่กรุงเนปิดอว์เมือช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า กองทัพรับประกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ “เป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม” แม้ว่ากองทัพจะเป็นผู้จัดการเลือกตั้งก็ตาม”
การลงคะแนนเสียงรอบที่สองจะเกิดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้าหรือประมาณกลางเดือนมกราคม 2569 ส่วนรอบที่สามซึ่งเป็นรอบสุดท้ายจะมีขึ้นในวันที่ 25 มกราคม

