ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.ณิชานันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ เจ้าของห้องเลขที่ บี 2126 ชั้น21 อาคารบี คอนโดลุมพินีวิลล์ แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์ จากกรณีตัดเชือกช่างทาสีที่กำลังโรยตัวทาสีอยู่บนอาคาร เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 15.00 น. ทางผู้ก่อเหตุและช่างทาสี มีความประสงค์ที่จะนัดเจอกันเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงจากปากของผู้ก่อเหตุเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนัดมาเจอกันที่ สภ.ปากเกร็ด ขณะที่นายสอง อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา ช่างทาสีคนดังกล่าว พร้อมด้วยคุณวริยา สวัสดิ์วิมล นายจ้าง จากบริษัท ดี.พี.แอคเซสเพลนติ้ง ได้เดินทางมาถึงก่อนในเวลา 14.38 น. จึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการพูดคุยกันก่อนที่ น.ส.ณิชานันท์ จะเดินทางมาถึงในเวลา 15.20 น.
จากนั้นเวลาประมาณ 15.40 น. ผู้เสียหายได้ลงมาก่อน พร้อมเปิดเผยว่าระหว่างที่ได้มีการพบกับผู้ก่อเหตุ ทางด้านตัวผู้ก่อเหตุเองก็ได้ขอโทษและบอกว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะพยายามฆ่า ส่วนตัวในภาพรวมนั้นไม่โอเค รู้สึกเหนื่อย และเสียความรู้สึก สำหรับประเด็นการชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นยังไม่ได้มีการเจรจากันและยังไม่ได้พูดคุยด้วยว่าผู้ก่อเหตุใช้อะไรตัดเชือก ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จะพูดอะไร คงปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายดำเนินการต่อ
ด้านนายสอง ชาวเมียนมา ช่างทาสี ผู้ถูกกระทำได้กล่าวว่าผู้ก่อเหตุได้มาขอโทษและกล่าวด้วยว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะพยายามฆ่า ซึ่งตนเองฟังแล้วก็รู้สึกงง ถือเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น มันคือการพยายามฆ่าชัดๆ แต่อย่างไรก็ตามตนเองไม่ขอรับคำขอโทษ และได้สังเกตเห็นสีหน้าของผู้ก่อเหตุว่ามีลักษณะเศร้า ขณะเดียวกันนายสอง ยังได้เล่าถึงวินาทีที่ถูกตัดเชือกว่าตนเองรู้สึกกลัว และไปต่อไม่ได้ จะลงก็ลงไม่ได้ จึงได้ตะโกนบอกบัดดี้เพื่อนของตนเองว่าถูกตัดเชือก จึงรอดชีวิต แต่ขณะนี้ก็ยังคงฝังใจกับเหตุการณ์นี้แต่ก็ต้องทำงานด้านนี้ต่อไปเพราะเป็นอาชีพของตน
ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุ น.ส.ณิชานันท์ ได้เดินลงมาในช่วงสุดท้าย และไม่ได้มีการกล่าวให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชนโดยเดินมุ่งตรงเพื่อไปยังรถของตนเอง แต่ขณะสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนัก พยายามที่จะสอบถามถึงการก่อเหตุและความรู้สึก ต่างพากันวิ่งกรูกันไปจนถึงรถผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ระหว่างที่เดินไปนั้นผู้ก่อเหตุกล่าวเพียงว่าขอโทษ จากนั้นได้มีสื่อบางสำนักตะโกนบอกให้ยกมือทำท่าขอโทษกับการกระทำในครั้งนี้ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะทำตาม
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า ขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว ทั้งผลตรวจดีเอ็นเอ และพยานบุคคล จนเป็นที่แน่ชัด และสืบทราบว่า น.ส.ณิชานันท์ คือผู้ก่อเหตุ นำไปสู่การตั้ง 2 ข้อหาคือพยายามฆ่า และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งในระหว่างการสอบสวน น.ส.นิชานันท์ ยังคงให้การภาคเสธ แต่แล้วก็ต้องจำนนด้วยหลักฐาน จึงให้การรับสารภาพในประเด็นเดียวคือใช้มือดึงเชือกแล้วตัดเชือกจริง แต่ปฏิเสธในประเด็นเจตนาที่จะฆ่าผู้อื่น
นอกจากนี้ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ยังกล่าวด้วยว่า ภาพรวมตอนนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะฟ้องกับผู้ก่อเหตุต่อศาล จากพยานหลักฐานพบประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้ต้องหาก่อเหตุ เพราะรู้สึกไม่พอใจที่นำช่างมาโรยตัวทาสีโดยทางคอนโดไม่แจ้งให้ทราบก่อน
สำหรับคดีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งมีอัตราโทษที่สูง และข้อหาทำให้เสียทรัพย์ แม้ผู้ก่อเหตุจะให้การว่าไม่ตั้งใจก่อเหตุก็ตาม และตำรวจมั่นใจว่าไม่ผิดตัว รอผลการพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจประวัติว่าเคยก่อเหตุอาชญากรรมมาหรือไม่ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 15 วันในการส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี
