สมุทรสาคร///หวิดสูญเงินเกือบ 4 แสน สาวสวยเหยื่อสแกมเมอร์ถูกหลอกตุ๋นเคลมสินค้า ใช้รหัสดูดเงิน ตำรวจสมุทรสาครตามอายัดได้ทัน ส่งเช็คคืนเจ้าของ

หวิดสูญเงินเกือบ 4 แสน สาวสวยเหยื่อสแกมเมอร์ถูกหลอกตุ๋นเคลมสินค้า ใช้รหัสดูดเงิน ตำรวจสมุทรสาครตามอายัดได้ทัน ส่งเช็คคืนเจ้าของ


เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (ศปอส.ภ.จว.สมุทรสาคร) พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร,พ.ต.อ.สิทธิพร กะสิ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาครและคณะ ได้ร่วมกันมอบเช็คเงินสดจำนวน 386,681 บาท คืนให้กับ นางสาวสุพัตตรา คูณชัยพาณิชย์ หญิงสาวผู้เสียหาย ที่ตกเหยื่อของแก็งค์สแกมเมอร์ โดยหลอกให้เคลมสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ พอกดเข้าสู่ระบบใส่รหัสเคลมสินค้า กลับพบว่าถูกดูดเงินในบัญชีไปเกือบ 4 แสนบาท

อีกทั้งยังถูกหลอกซ้ำว่าให้โอนเงินเพิ่มอีกกว่า 1 หมื่นบาท เพื่อขอคืนทรัพย์ก้อนแรกที่ถูกดูดเงินไป เมื่อทำครั้งสองกลายเป็นว่าถูกดูดเงินไปอีก ซึ่งต่อมาผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร โดย ร.ต.ท.จิเรทธิ์ พราหมณ์น้อย รองสารวัตรสอบสวนฯ และได้มีการติดตามจนนำสู่การอายัดเงินในบัญชีม้าไว้ได้ ก่อนที่จะทำเรื่องขอส่งมอบเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายดังกล่าว


พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร กล่าวว่า ผู้เสียหายรายนี้ ถูกแก็งค์ สแกมเมอร์ หรือ คอลเซ็นเตอร์ สร้างเรื่องราวหลอกให้สูญเงินที่มาในรูปแบบของการอ้างเป็นตัวแทนฝ่ายเคลมสินค้าจากบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง (Shopee) จากนั้นให้ผู้เสียหายเข้าไปทำเรื่องขอเคลมสินค้าผ่านทางระบบออนไลน์ ปรับวิธีการกรอกข้อมูลต่างๆ ด้วยภาษาอังกฤษ และใช้เงื่อนไขของช่วงเวลามาบีบบังคับให้ผู้เสียหายต้องรีบกระทำตามขั้นตอนที่สแกมเมอร์สร้างขึ้น โดยไม่มีเวลาและสติในการอ่านอย่างถี่ถ้วนเพราะต้องรีบให้ทันต่อช่วงเวลาที่กระชั้นชิดนั้น ส่งผลทำให้เมื่อทางผู้เสียหายเข้าไปกรอกข้อมูลจนครบตามขั้นตอนแล้ว ก็กลายเป็นว่า ถูกดูดเงินในบัญชีออกไปสู่บัญชีม้า ซึ่งกว่าที่ผู้เสียหายจะรู้ตัวก็ตอนที่มีข้อความแจ้งเตือนจากธนาคารเจ้าของบัญชีว่า มีเงินโอนออกไปแล้วนั่นเอง แต่ผู้เสียหายรายนี้ยังนับเป็นโชคดีที่พอรู้ตัวว่าถูกหลอกดูดเงินในบัญชี ก็รีบเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ฯ ผู้รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ได้ดำเนินการจนกระทั่งสามารถขออายัดบัญชีปลายทาง(บัญชีม้า) และนำเงินกลับมาคืนผู้เสียหายได้กว่า 3 แสนบาท

ข่าวที่น่าสนใจ

นางสาวสุพัตตรา คูณชัยพาณิชย์ ผู้เสียหาย เล่าว่า ความเสียหายดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้สั่งซื้อสินค้าผ่านทางบริษัทขายสินค้าออนไลน์ชื่อดังเพื่อนำมาจำหน่าย ซึ่งพอสินค้าส่งมาถึงตน ก็ปรากฏว่ามีโทรศัพท์เบอร์ปกติ โทรเข้ามาแจ้งว่า เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายเคลมสินค้าของบริษัทออนไลน์ที่ตนสั่งซื้อ โดยสินค้าที่ตนได้รับมีปัญหา ขอให้ทำเรื่องส่งเคลมสินค้าล็อตดังกล่าว ผ่านทางเว็ปไซด์เคลมสินค้าที่สแกมเมอร์ให้มา ซึ่งตนก็ลองกดเข้าไปในเว็ปไซด์ดังกล่าว ก็ปรากฏว่ามีเว็ปไซด์อยู่จริง และพบชื่อของตนเป็นผู้ที่จะต้องส่งเคลมสินค้าอยู่ในนั้นด้วย ตนจึงเชื่อสนิทใจว่าเป็นของจริง จึงได้เข้าไปทำรายการตามขั้นตอน โดยพอเข้าไปทีแรกภาษาที่ถูกระบบบังคับให้เลือกคือ ภาษาอังกฤษ ไม่สามารถเลือกเป็นภาษาไทยได้ จากนั้นก็มีการใส่รหัสสินค้าที่จะขอเคลม และให้กดเข้าตามขั้นตอนที่เขาบอกมา จนกระทั่งสุดท้ายตนรู้ว่ามาถูกดูดเงินในบัญชี ก็เมื่อมีข้อความแจ้งเตือนเงินออกจากธนาคารเจ้าของบัญชี ตอนนั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พอสักพักก็มีสายโทรเข้ามาอีกบอกว่า ถ้าต้องการยอดเงินแรก 3 แสนกว่าบาทคืน จะต้องทำรายการอีกหนึ่งรอบ และต้องรีบทำด้วยเพราะจะหมดเวลาทำงานของเจ้าหน้าที่แล้ว อีกทั้งวันรุ่งขึ้นก็เป็นวันหยุดราชการ หากไม่รีบดำเนินการทันทีที่บอก ก็จะไม่ได้เงินคืน ปรากฏว่า พอทำตามอีกเป็นรอบที่สอง เงินอีกบัญชีกว่า 1 หมื่นบาทก็หลุดออกไปด้วยเช่นกัน


นางสาวสุพัตตรา คูณชัยพาณิชย์ ยังเล่าอีกว่า จากการติดตามตรวจสอบทราบว่า เบอร์โทรศัพท์ที่ทางแก็งค์สแกมเมอร์ใช้โทรเข้ามาหาตนนั้น เป็นเบอร์ที่ถูกเปิดใช้โดยบัตรประชาชนของเด็กชายอายุราวๆ 10 กว่าขวบ อยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ส่วนเงินก้อนที่สองที่สูญไปราวๆ 18,000 บาทนั้น ถูกโอนไปที่บัญชีในประเทศมาเลเซีย ซึ่งก็คิดว่าเงินก้อนหลังนี้คงไม่ได้คืนแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ยังนับเป็นโชคดีที่ได้เงินก้อนแรกกว่า 3 แสนบาท กลับคืนมา และต้องขอขอบคุณทางด้านของพนักงานสอบสวนฯ ผู้รับผิดชอบคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ที่ช่วยดำเนินการทางด้านเอกสาร การประสานงานต่างๆ และติดตามทรัพย์สินจนได้เงินคืนกลับมา พร้อมกันนี้ก็ขอฝากเตือนภัยไว้ด้วยว่า ช่วงนี้มีพวกมิจฉาชีพมาหลอกผู้เสียหายในหลายรูปแบบ นับเป็นภัยสังคมที่ต้องเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก จึงขอให้ทุกคนอย่าหลงเชื่อบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะอาจกลายเป็นเหยื่อของแก็งค์สแกมเมอร์ได้

ด้าน พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ยังฝากทิ้งท้ายด้วยว่า หากมีเบอร์โทรแปลกๆ เข้ามา ก็ขอให้มีการตรวจสอบเบอร์โทรดังกล่าวก่อน ด้วยการโทรกลับหรือตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ แต่ถ้าหากมีการบอกให้โอนเงินนั้น ขอให้หยุดคิดที่จะทำตามทันที ให้ฟันธงไปเลยว่า คนๆนั้นเป็นพวกมิจฉาชีพหรือคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาหลอกแน่นอน ขณะที่รูปแบบที่มิจฉาชีพกำลังใช้อย่างแพร่กระจายในปัจจุบันคือ การให้ผู้เสียหาย แปลภาษาจากไทยไปเป็นอังกฤษหรือภาษาอื่น พอเราเข้าไปแล้วบางครั้งไม่เข้าใจขั้นตอนหรือมีความเข้าใจที่ไม่ชัดเจนในภาษานั้นๆ ทำให้เราต้องกดตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพบอก อีกทั้งการถูกเร่งรัดด้วยเวลาที่กระชั้นชิด จนทำให้เราขาดสติในการตัดสินใจ จึงถูกหลอกให้สูญเงินได้ในที่สุด

ซึ่งก็ขอให้ทุกคนเฝ้าระวังไว้ด้วย หากพบการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ก็ขอให้รีบแจ้งมาที่สายด่วน 1441 หรือ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC ที่เปิดให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องร้องเรียน ให้คำปรึกษา และดำเนินการระงับอายัดบัญชีธนาคารมิจฉาชีพทันทีที่เกิดเหตุ เช่น หลอกลวงออนไลน์ ซื้อขายออนไลน์ หรือกลโกงต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายและเร่งคืนเงินให้เร็วที่สุด

 

กิตติศักดิ์   นาคสมพงษ์  ผู้สื่อข่าว  TOP NEWS ทั่วไทย จ.สมุทรสาคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ขอทหารไทยปลอดภัย สมรภูมิ "ภูมะเขือ-ห้วยตามาเรีย" ยังปะทะเดือด BM-21 เขมรยิงถี่ยิบ กระสุนตกบ้านพลเรือน
รัฐมนตรีเขมรเปรียบการสู้รบไทย-กัมพูชาเหมือน WW I
"ธรรมนัส" ร่วมเปิดตัวผู้สมัครสส.กล้าธรรม โชว์คนดังย้ายร่วม ลั่นดีเอ็นเอ "คนบ้างาน" ไม่ขายฝันทำมากกว่าพูด จัดเต็มนโยบายเพื่อเกษตรกร
"มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา" มอบผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือโรงเรียนภาคใต้ ส่งต่อผ่านมูลนิธิยังมีเรา ร่วมฟื้นฟูการศึกษาในพื้นที่สงขลา–สตูล
"สรรเพชญ" เปิดใจย้ายสมัครสส. "ภูมิใจไทย" ยันยึดมั่นอุดมการณ์ ลุยพัฒนาสงขลาต่อเนื่อง
เปิดวิสัยทัศน์ "วุฒิชาติ เกรียงเกษร" จากนักธุรกิจจิตอาสาสู่สนามการเมือง กับภารกิจพลิกโฉมเชียงรายภายใต้ธง "พรรคกล้าธรรม"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​