ป.ป.ช.พิจิตร ลงพื้นที่เจาะตรวจถนนงบ 1,413 ล้าน สร้างเสร็จช้าแต่พังเร็วใช้งานไม่ถึงปีพบถนนชำรุด 7,000 ตารางเมตร สั่งเร่งซ่อมเปิดการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่

วันที่ 24 ธันวาคม 2568 นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต และนักสืบสวนคดีทุจริต ร่วมกับ ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 11 สายแยกอินทร์บุรี – อ.สากเหล็ก ตอน อ.ทับคล้อ – อ.สากเหล็ก ระยะทาง 30.900 กิโลเมตร มาตรฐานชั้นทาง ชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร ราคาก่อสร้าง 1,413,504,344.98 บาท ส่งมอบงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 แต่เปิดใช้งานได้ไม่ทันไรถนนก็เกิดชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อส่งผลให้เกิดอันตรายกับผู้ที่ใช้เส้นทางขึ้น-ล่องสู่ภาคเหนือที่มีการร้องเรียนกันเป็นจำนวนมาก โดยพบพื้นที่เสียหายชำรุดมาก ถึง 7,000 ตารางเมตร
โดยตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 68 ป.ป.ช.พิจิตร ได้ลงพื้นที่ร่วมกับ นายธวัชชัย หมื่นโฮ้ง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิจิตร ซึ่งได้สั่งการให้ผู้รับจ้างซึ่งอยู่ในประกันสัญญาเร่งเข้าซ่อมแซมถนนจากช่วง อ.วังทรายพูน – อ.ทับคล้อ ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 5,000 ตารางเมตร ยังคงเหลือเนื้องานอีกประมาณ 10%ที่จะต้องซ่อมถนนให้แล้วเสร็จทั้งนี้เพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้กับผู้ที่ใช้เส้นทาง ทล.11 ซึ่งเป็นเส้นทางขึ้น-ล่อง สู่ภาคเหนือที่ต้องผ่านจังหวัดพิจิตรให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย แต่ด้วยช่วงใกล้ปีใหม่รถเริ่มมากขึ้นจึงจำเป็นต้องสั่งให้หยุดการทำงานในช่วง 10 วันเพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้กับผู้ใช้เส้นทางและจะให้เริ่มงานอีกครั้งหลังวันที่ 7 ม.ค. 69  เพื่อซ่อมแซมถนนให้แล้วเสร็จ
จากการลงตรวจได้มีการใช้วิธีการสุ่มเจาะ (Core Drilling) ถนนจำนวน 4 จุด ของความหนาของพื้นผิวถนนแอสฟัสติกท์ ซึ่งกำหนดความหน้าชั้นแรก 8 เซนติเมตร และชั้นสอง 5 เซนติเมตร รวมความหนาที่ต้องเจาะทดสอบออกมาเป็น “ก้อน” หรือแกนทรงกระบอก รวม 13 เซนติเมตร ผลพบว่าทั้งสองชั้นผิวทางไม่เชื่อมต่อกันเป็นก้อน เป็นลักษณะแยกก้อนแยกส่วนกัน
ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้รับการชี้แจงว่า ในการเจาะทดสอบอาจไม่จำเป็นต้องเชื่อมเป็นก้อนเดียวกัน สามารถเจาะแยกส่วนกันเพื่อทดสอบได้ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อาจเกิดจากการทิ้งช่วงในการก่อสร้างในชั้นแรกนานเพื่อเปิดให้ใช้ถนน ในการสัญจรก่อน และเมื่อดำเนินการก่อสร้างในชั้นที่สองและมีสัญจรเต็มรูปแบบอาจขาดการทำความสะอาดของถนนก่อนก่อสร้างผิวทางชั้นที่สอง จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถนนเกิดการยุบตัวของผิวถนนที่เกิดขึ้นได้
โดยหลังจาก 7 ม.ค. 69 แขวงทางหลวงพิจิตรก็จะได้เร่งผู้รับเหมารายนี้ให้ดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขพื้นถนนที่ชำรุดเสียหายในลักษณะ Recycling ซึ่งจะมีการบดวัสดุเดิมแล้วผสมคอนกรีตก็จะมีความหนาแน่นทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพถนนในส่วนที่เหลือและสามารถรองรับการสัญจรของรถจำนวนมากได้ตามวัตถุประสงค์ต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ

สิทธิพจน์ เกบุ้ย ผู้สื่อข่าวTopNewsทั่วไทย จ.พิจิตร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา" มอบผลิตภัณฑ์ช่วยเหลือโรงเรียนภาคใต้ ส่งต่อผ่านมูลนิธิยังมีเรา ร่วมฟื้นฟูการศึกษาในพื้นที่สงขลา–สตูล
"สรรเพชญ" เปิดใจย้ายสมัครสส. "ภูมิใจไทย" ยันยึดมั่นอุดมการณ์ ลุยพัฒนาสงขลาต่อเนื่อง
เปิดวิสัยทัศน์ "วุฒิชาติ เกรียงเกษร" จากนักธุรกิจจิตอาสาสู่สนามการเมือง กับภารกิจพลิกโฉมเชียงรายภายใต้ธง "พรรคกล้าธรรม"
ความสุขเทศกาลคริสต์มาส ส่งผ่านตำรวจจราจร
"โครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน" สร้างโภชนาการที่ดี ให้เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล
รมว.วัฒนธรรม เปิดงานหุ่นโคมไฟร้อยดวงใจ ถวายอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​