บานปลายไปใหญ่ “โฆษกกล้าธรรม” สวนคำ “อภิสิทธิ์” ประกาศปชป.ไม่ร่วมรัฐบาล “พรรคกล้าธรรม”

'โฆษกกล้าธรรม' ซัดเดือด 'อภิสิทธิ์' เล่นการเมืองปลุกความแตกแยก พร้อมขุดแผล 'ประชาธิปัตย์' ในอดีต หยันไม่น่าได้เป็นแกนนำ รบ. ไม่ใช่คนกำหนดทิศทางการเมือง

บานปลายไปใหญ่ “โฆษกกล้าธรรม” สวนคำ “อภิสิทธิ์” ประกาศปชป.ไม่ร่วมรัฐบาล “พรรคกล้าธรรม” – Top News รายงาน

 

โฆษกกล้าธรรม

 

 

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ โฆษกพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศบนเวทีดีเบตว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ภายหลังการเลือกตั้งปี 2569 ว่า ท่าทีดังกล่าวสะท้อนแนวคิดทางการเมืองที่มุ่งสร้างความแตกแยก มากกว่าการแสวงหาความสามัคคีเพื่อร่วมกันทำงานให้ประเทศเดินหน้า ตนเชื่อว่าประชาชนยังจดจำบทเรียนทางการเมืองในอดีตได้เป็นอย่างดี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งกรณีการเรียกร้องให้เกิดการปฏิวัติ การบริหารประเทศที่นำไปสู่วิกฤติความขัดแย้งและความสูญเสียกลางเมืองหลวง รวมถึงปัญหาการจัดการที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ที่ถูกตั้งคำถามถึงการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ตลอดจนความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จากการบริหารจัดการหนี้และทรัพย์สินของชาติ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการขายทรัพย์สินของคนไทยให้ต่างชาติในราคาต่ำกว่ามูลค่า

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ครั้งหนึ่งเคยตระบัดสัตย์ทางการเมือง เมื่อหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ แต่สุดท้ายมติพรรคกลับเข้าร่วม อีกทั้งยังมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตซื้อเสียง และกรณีสมาชิกพรรคบางรายต้องโทษจำคุก ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่สังคมรับรู้มาโดยตลอด

 

นายอัครแสนคีรี กล่าวว่า การเมืองในยุคปัจจุบันควรมุ่งสมานฉันท์ สร้างความร่วมมือและความหวังให้กับประชาชน ไม่ใช่พฤติกรรมหรือวาทกรรมที่นำไปสู่ความแตกแยก ทั้งนี้ พรรคการเมืองบางพรรคเมื่อได้เป็นรัฐบาลก็มักนำไปสู่วิกฤติและความขัดแย้ง แต่เมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาลกลับใช้วิธีการนอกระบบ ปลุกเร้าความแตกแยกในสังคม

 

 

 

โดยประชาชนยังจดจำภาพบทบาทของผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยลงถนนและเป่านกหวีด จนท้ายที่สุดประเทศต้องเผชิญกับการปฏิวัติ พรรคกล้าธรรม ขอยืนยันจุดยืนว่า เราพร้อมทำการเมืองเชิงสร้างสรรค์ ยึดผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเชื่อมั่นว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินจากผลงานและแนวทางที่แท้จริงในการเลือกตั้งที่จะมาถึง เราไม่ใช่การเมืองที่สักแต่พูดสวยหรูเพื่อขายฝัน แต่เป็นการเมืองที่ลงมือทำจริงเพื่อประเทศและประชาชน

“ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ก็ยังเป็นเรื่องของอนาคต และผมมองว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่น่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น การที่ออกมาระบุว่า จะจับมือกับพรรคนั้นไม่จับกับพรรคนี้ พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่น่าใช่ผู้กำหนดทิศทางการเมือง”

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รพ.ประจวบฯ จัดงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ ครั้งที่ 15 สร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ข้อมูลสาธารณสุข
เครือซีพีส่งต่อพลังน้ำใจ 8.2 ล้านบาท จากประชาชนให้แก่สภากาชาด มอบชีวิตใหม่ผ่านโครงการ "Let Them See Love 2025"
ทีมสืบสวน สภ.สัตหีบ เข้าอวยพรปีใหม่ ผกก.สภ.สัตหีบ เสริมสิริมงคลรับศักราช 2570
"ภูมิธรรม-ทวี" ลุ้นสุด 21 ม.ค. 69 ศาลรธน.นัดตัดสิน โดนร้องผิดจริยธรรม แทรกแซง "ดีเอสไอ" สอบคดีฮั้วเลือกสว.
คอนเฟิร์ม "บิ๊กป้อม" ถอนตัวแคนดิเดตนายกฯ พปชร. แล้ว "ไพบูลย์" ยันนั่งหัวหน้าพรรค เดินหน้าส่งสมัครสส.เต็มอัตราศึก
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานงานฉลองโรงเรียนดาราสมุทร ฉะเชิงเทรา ปีที่ 80

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​