วันนี้ 22 ธ.ค.68 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดนโยบายหาเสียเลือกตั้ง 2569 ภายใต้แคมเปญ “ไทยไม่ทน” พร้อมขอบคุณประชาชนที่ส่งข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงความอึดอัดที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าต้องทนกับอะไร และไม่อยากทนกับอะไร ซึ่งพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่อยากทนกับความคอรัปชั่น ยากจน ปากท้อง ต่างชาติตัดราคาสินค้า ภัยพิบัติซ้ำซาก และหนี้นอกระบบ พร้อมกับระบุว่า ส่วนใหญ่คนไทยไม่ขอทนการทุจริตคอรัปชั่น คนโกง ทั้งในส่วนของข้าราชการและนักการเมือง เพราะเป็นหนึ่งในเบื้องหลังปัญหาต่างๆ วันนี้หลายคนท้อแท้ เหมือนกับการต้องทนหายใจไปวันๆ วันข้างหน้าก็ยังไม่เห็นว่าจะไปอย่างไร และสุดท้ายตั้งคำถามว่าแล้วเมื่อไหร่คนไทยจะหายจน
และเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการเลือกตั้ง จะมีความหวังหรือไม่ ที่จะหลุดพ้นจากสภาพเช่นนี้ หรือเราจะแข่งขันกันเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ทั้งอารมณ์การช่วงชิงทางการเมือง หรือนโยบายเฉพาะหน้า แล้วสุดท้ายประเทศไทยยังคงอยู่ที่เดิม จึงเชิญชวนว่าถึงเวลาแล้วที่จะประกาศให้เห็นว่า “ประเทศไทยไม่ทน”
พรรคประชาธิปัตย์ ขออาสาเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ ด้วยแนวทางการเมืองสุจริตไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และในสถานะสถาบันทางการเมือง เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเท่านั้น จากประสบการณ์และสิ่งที่เคยทำมา เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ทำให้มั่นใจว่า ถึงวันนี้สามารถให้คำตอบกับประเทศได้ว่า ไม่ต้องหายใจไปวันๆ ทนหายใจ นี่คือสิ่งที่เป็นสภาพในปัจจุบัน
การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ ขอบอกว่า เรากับประชาชนจะกลับมา และขอ ใช้คำผวนแบบไทยๆ “ทนหายใจ จะกลายเป็น ไทยหายจน” หลักสำคัญในการเดินหน้ารณรงค์หาเสียง คือเป้าหมายสุดท้าย “หลุดพ้นสภาพจากที่ต้องทนหายใจ ไปสู่สภาวะที่ไทยหายจน”
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวว่า หลายคนตั้งคำถามว่า เราจะสนใจเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจใช่หรือไม่ ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ จนในความหมายที่พูดถึง มีหลายความหมาย ไม่ใช่แค่ปัญหาที่ไทยติดหล่ม หรือ เพราะมีการผูกขาดอย่างเดียว แต่จะมีจนอื่นๆที่ตามมา ทั้งจนปัญญา จนเงิน จนใจ จนตรอก จนปัญญา พรรคประชาธิปัตย์อาสาขจัดความจนแก้ปัญหาสังคมและคุณภาพชีวิตประชาชน แก้ไขปัญหาสังคมและพัฒนาคุณภาพชีวิต วันนี้หมดเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องทนกับสิ่งต่างๆ และเราสามารถหลุดพ้นจากสภาวะที่หายจนได้ร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่ต้องทนหายใจแต่จะเป็นไทยที่หายจน
