จ.ตราด/เวลา 17:50 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2568 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร จังหวัดตราด (กอ.รมน.จว.ตราด) พร้อมตำรวจภูธรเมืองตราด ปลุกเข้าจับกุมครอบครัวชาวกัมพูชา ในพื้นที่บ้านแหลมหิน ตำบลหนองคันทรง อำเภอเมือง จังหวัดตราด หลังพบประวัติครอบครัวมีลูกเขยเป็นผู้พันกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งมีความสงสัยอาจจะเป็นสายลับให้กับฝั่งกัมพูชา หลังจากเข้าตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ชื่อนายจันทรา แง๊ด อายุ 44 ปี นางสาวจันรียา เม อายุ 41 ปี เด็กชายอายุ 6 เดือน และนางสาวราญา แงด อายุ 18 ปี เป็นภรรยา พ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล ผบ.พัน.ตชด. 823 ดูแลฝั่ง อ.สำรูด จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา (พื้นที่ติดต่อกับบ้านม่วง ต.นนทรีย์ อ.บ่อไร่ จ.ตราด)
ซึ่งทั้งหมดบัตรประจำตัวซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู , เด็กมีบัตรสุขภาพต่างด้าว) จึงคุมไว้พร้อมแจ้งว่า ขอใช้กฎอัยการศึกควบคุมตัวท้้งหมด เพื่อนำไปตัวสอบปากคำต่อไป จากนั้นได้เข้าตรวจสอบและค้นหาหลักฐานไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ยึดโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 4 เครื่องไว้ตรวจสอบ นางสาวราญา ให้ข้อมูลว่า มาอาศัยอยู่ในจังหวัดตราด ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ เรียนหนังสือที่จังหวัดตราด ตั้งแต่เล็กไม่เคยไปไหน และทำงานอยู่ร้านในตำบลหนองคันทรง ยอมรับรู้จักกับพ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล มานานแล้ว และพูดคุยกันคบหาจริงจัง แล้วแต่งงานในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 และไม่เคยรู้เลยว่าทำงานที่ไหนอย่างไร เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบไทย-กัมพูชา ก็ไม่เจอกันอีกเลย และไม่สามารถมาหาได้เลย แต่ยังโทรศัพท์พูดคุยกันตามปกติทุกวัน และไม่เคยพูดถึงเรื่องชายแดนเลย และพร้อมให้ตรวจสอบทุกอย่าง ว่าตนเองบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นสายลับให้ใคร ไม่เคยยุ่ง ไม่เคยเรื่องพวกนี้ หรือส่งที่ตั้งทางทหารอะไรเลย ส่วนมากอยู่แต่บ้าน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบโทรศัพท์นางสาวราญา แงด พบว่ามีการพูดคุยกับพ.ต.อ.โสต จริงทุกวัน ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะโทรหา และเมื่อวานมีประวัติลบข้อความบางส่วนทิ้ง นางสาวราญา ให้เหตุผลว่า ทะเลาะกันคิดว่าฝ่ายชายอยู่กับผู้หญิง ด้วยความโมโหจึงบล็อกไลน์ จากนั้นจนท.แจ้งว่า ใช้กฎอัยการศึกในการควบคุมตัวทั้งหมด เพื่อนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเฉพาะนางสาวราญา แงด ภรรยาพ.ต.อ.โสต ซ็อมโอล ว่าเป็นสายลับหรือไม่ โดยทหารนาวิกโยธินตราด เป็นร่วมสอบปากคำด้วย
