No data was found

ประวิตรตาสว่าง ประยุทธ์คุมพปชร. ไล่ธรรมนัส ล้างไพ่กก.บห.ใหม่

กดติดตาม TOP NEWS

นายกฯจับเข่าคุย 3 ป. ก่อนเรียก 6 รมต.แกนนำพรรคถกเครียดบ้านพักรับรองในร 1 รอ. สรุปจบหมดเวลาผู้กองธรรมนัส รื้อกรรมการบริหารพรรคใหม่ ตั้งแต่เป็นเลขาฯพรรค 18 มิ.ย. พลังประชารัฐมีแต่เรื่องไม่หยุดหย่อน แกนนำหวั่นเสียภาพลักษณ์พรรคชาวบ้านขาดศรัทธากระทบเลือกตั้ง สะพัดประยุทธ์ลงจากหิ้งคุมพรรคเองให้พีระพันธุ์นั่งเลขาฯ ลุยเลือกตั้งสู้โทนี่

แม้จะพยายามประคบประหงมกันมาตลอดแต่ที่สุดปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐที่เหมือนถูกซุกอยู่ใต้พรหม ก็ถูกรื้อถูกหยิบขึ้นมาปัดกวาดทำความสะอาดจนได้ นลย้อนอดีตก่อนหน้านี้ในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ช่วงต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ก็เกิดกรณีปัญหามีความพยายามที่จะคว่ำ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมให้ตกเก้าอี้คาสภาด้วยการล็อบบี้พรรคเล็กไม่ให้สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกต่อไป โดยหัวขบวนที่เป็นตัวการเป็นต้นคิดเรื่องนี้ก็คือ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่จับมือกับ “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค รมช.แรงงาน อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ฯลฯ แต่ปรากฎว่าความลับรั่วไหล ความแตกเสียก่อน ทำให้แผนแจกกล้วยลิงหวังล้มราชสีห์ของร.อ.ธรรมนัสต้องล้มไม่เป็นท่า ที่สุดก็นำมาสู่การปลดฟ้าผ่าร.อ.ธรรมนัสกับนฤมลพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีถูกถีบออกจากรัฐบาลเรือแป๊ะ

นำไปสู่กระแสข่าวความขัดแย้งภายในระหว่าง 3 ป.ที่ประกอบด้วย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ในฐานะรองนายกฯ “บิ๊กป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.อ.ประยุทธ์ มีการจับแพะชนแกะว่าพล.อ.ประวิตรที่ถือหางร.อ.ธรรมนัสกับนฤมลไม่พอใจพล.อ.ประยุทธ์ที่ไปปลดน้องรักและกล่องดวงใจทั้ง 2 คนออกจากการเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ประลองกำลังพยายามส่งคนของตัวเองเข้าไปมีบทบาทในพรรคเพื่อเสริมกำลังของฝ่ายตน ฝากพล.อ.ประวิตรก็ส่งน้องรักอย่าง “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานที่ปรึกษากองทัพบก แถมยังเป็นพี่เลิฟของร.อ.ธรรมนัสมาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคผนึกกำลังกับร.อ.ธรรมนัส ด้านฝากฝั่งพล.อ.ประยุทธ์หลังถูกเจาะยางเกือบเสียศูนย์หลุดวงโคจรไป เพราะไม่มีคนเป็นหูเป็นตาในพรรคที่สุดนายกฯก็เลยต้องส่ง “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ มือทำงานเข้าไปเป็นหูเป็นตาในพรรค

แต่ดูเหมือนคลื่นใต้น้ำในพรรคจะยังไม่หมดและไม่มีทางจบลงไปง่ายๆ ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวส.ส.ใต้ 14 คนที่เป็นสายตรงพล.อ.ประยุทธ์เตรียมทิ้งพรรคพลังประชารัฐหนีไปอยู่กับพรรคใหม่ของ “ปลัดฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดมหาดไทยที่เกษียณอายุราชการ และออกมาตั้งพรรคเพื่อให้การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป บังเอิญเกิดเรื่องล้มนายกฯคว่ำพล.อ.ประยุทธ์พอดียิ่งทำให้ข่าวนี้ถูกมองว่าเป็นจริง เพราะมีส.ส.หลายคนผู้แทนหลายเขตอึดอัดไม่พอใจกับการทำหน้าที่เลขาธิการพรรคของร.อ.ธรรมนัส แม้ในใจยังต้องการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดก็มาเกิดเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐซ้ำอีก จากกรณีการทำโพลล์สำรวจความนิยมของชาวบ้าน แต่แปลกที่รอบนี้มีการหยิบยกเฉพาะโพลล์ภาคใต้เท่านั้นมาพูดขณะที่ภาคอื่นไม่มีแต่อย่างใด มิหนำซ้ำผลโพลล์ที่ทำออกมายังระบุว่า 14 ผู้แทนของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านเกณฑ์มาตราฐานของพรรคแค่ 4 คนเท่านั้นที่เหลืออีก 10 คนสอบตกหมด แถมงานนี้ร.อ.ธรรมนัสดันออกมาให้สัมภาษณ์เปิดหน้าเต็มๆว่าพล.อ.ประวิตรเป็นคนสั่งให้ทำ เพื่อจะได้ดูคะแนนนิยมส.ส.แต่ละคนในพื้นที่ จะได้รู้จุดอ่อนจุดแข็งเพื่อจะได้นำมาพิจารณาประกอบในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งคราวหน้า ที่สุดเรื่องนี้ก็กลายเป็นกระเด็นร้อนกระเพื่อมอย่างหนักในพรรค เพราะส.ส.ภาคใต้หลายคนที่ถูกโพลล์ประเมินว่าสอบตกต่างออกมาตอบโต้ร.อ.ธรรมนัสอย่างเผ็ดร้อน ทั้งการระบุว่าการทำโพลล์เป็นเรื่องไร้สาระ ประชาชนในพื้นที่ไม่โง่และรู้ดีว่าใครเป็นใคร ส.ส.คนไหนทำอะไรเพื่อชาวบ้านบ้าง โดยส.ส.ใต้ส่วนใหญ่วิเคราะห์ว่าการทำโพลล์เป็นเกมส์การเมืองภายในพรรคที่หวังบีบส.ส.หัวแข็งให้ไปซูฮกผู้กอง สกัดดาวรุ่งผู้แทนที่ไม่ยอมศิโรราบเข้าก๊วนร.อ.ธรรมนัสหรือพวกที่เป็นสายตรงนายกฯให้หมดไปจากพรรค รอบนี้ยิ่งทำให้พรรคโกลาหลปั่นป่วนกันไปหมด มิหนำซ้ำล่าสุดพล.อ.ประวิตรยังออกมายืนกรานไม่เคยสั่งให้ทำโพลล์ ไม่มีการสั่งการแบบนั้น เพราะยังไม่ถึงเวลา ยังไม่มีการเลือกตั้ง ถ้าจะมีการเลือกตั้งจริงๆก็ต้องเลือกส.ส.เก่าในพื้นที่ก่อน งานนี้ไม่รู้ใครหลอกใคร ใครตกเป็นเหยื่อใครแต่ร.อ.ธรรมนัสกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปเลยหลังพล.อ.ประวิตรออกมาพูด

ที่สุดก็นำมาสู่การแตกหักของพรรคพลังประชารัฐ ข่าวแจ้งว่าหลังการประชุมครม.ณ ทำเนียบรัฐบาลวานนี้ (25 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้เรียก  6  รัฐมนตรีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ เข้าหารือต่อบนตึกไทยคู่ฟ้า ประกอบด้วย สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  ชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สันติ พร้อมพัฒน์ รมช. คลัง  รวมถึง 3 รัฐมนตรีกลุ่มสามมิตร  ประกอบด้วย สุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม  และ อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเป็นการหารือเรื่องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในพรรคพลังประชารัฐ จากนั้นนายกฯได้เชิญรัฐมนตรีทั้ง 6 คน ไปหารือต่อ ณ บ้านพักรับรอง ภายใน ร.1 ทม. รอ. ถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ และ พล.อ.ประวิตร ตามมาสมทบ โดยมีการหยิบยกปัญหาภายในพรรคหลายเรื่องที่เกิดขึ้นมาหาทางออกร่วมกัน โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าปัญหาหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรค ล้วนมาจากร.อ.ธรรมนัสทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นกรณีคว่ำนายกฯระหว่างศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นำไปสู่การปลด 2 รมต.ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน หรือล่าสุดการจัดทำโพลล์ส.ส.ภาคใต้ที่ทำให้ลูกพรรคหลายคนไม่พอใจ ทั้งนี้ส่วนใหญ่เห็นว่าหากปล่อยให้ปัญหาแบบนี้เกิดในพรรคต่อไปอาจทำให้คนไทยขาดความเชื่อมั่นใจตัวพรรคกระทบกระเทือนถึงคะแนนนิยมของพรรคและตัวนายกฯได้ ที่สุดที่ประชุมเห็นตรงกันว่าเพื่อยุติปัญหาดังกล่าว จะมีการล้างไพ่ปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐใหม่อีกครั้ง โดยจะให้กก.บห.พรรคลาออกเกินครึ่งหนึ่งจากปัจจุบันที่มีอยู่ 26 คน เพื่อให้กก.บห.พ้นสภาพ ไปโดยอัตโนมัติ ตรงนี้ก็จะทำให้ร.อ.ธรรมนัส นฤมล แม้แต่ ไผ่ ลิกค์ ที่เป็นมือขวาร.อ.ธรรมนัสและกก.บห.ที่เป็นสายร.อ.ธรรมนัสพ้นจากตำแหน่งไปด้วย  ทั้งนี้จะมีการดำเนินการเรื่องปรับโครงสร้างพรรคให้เสร็จภายในเดือนนี้ โดยพล.อ.ประวิตรที่แกนนำหลายคนในพรรคเห็นตรงกันว่าเริ่ม “หูตาสว่าง” ไม่หลงไปกับร.อ.ธรรมนัสไม่ตกอยู่ในคำหวานของนฤมล รับปากว่าจะไปจัดการเรื่องกก.บห.ให้เรียบร้อย สูตรตอนนี้ยังไม่ชัดว่าจะให้พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปแล้วดันพีระพันธุ์ที่นายกฯไว้ใจมาเป็นเลขาธิการพรรค หรือพล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจลงมาเป็นหัวหน้าพรรคทำการเมืองด้วยตัวเอง อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์เคยโดนตำหนิโดนแขวะว่าเป็นนายกฯตีนไม่ติดดินเป็นผู้นำที่ส.ส.เข้าถึงยากผู้แทนจะมาสะท้อนเรื่องราวมาขอให้ช่วยอะไรก็เจอตัวยาก ประกอบกับอนาคตการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้อย่างเร็วกลางปีหน้า 2565 อย่างช้าต้นปี 2566 พรรคพลังประชารัฐต้องหาผู้นำที่แข็งแกร่งจริงๆถึงจะหยุดพรรคเพื่อไทยของโทนี่ วู้ดซั่มได้ ยิ่งเปลี่ยนกติกาใหม่ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แบ่งเขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน ยิ่งเข้าทางนายใหญ่

ปัจจุบันทักษิณอายุ 72 ปี ( เกิด 26 ก.ค.2492) เลือกตั้งรอบหน้าก็ปาเข้าไป 73 -74 ปีแล้ว น่าจะเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายแล้วที่จะพาทักษิณกลับบ้าน ไม่แปลกที่การเลือกตั้งเที่ยวหน้าจะมีความหมายกับทักษิณเป็นอย่างมาก เพราะหลุดรอบนี้ไปไม่ได้กลับบ้านก็คงแก่หงำเหงือกแล้ว ถึงขนาดเตรียมเปิดผลักดันคนใกล้ชิดลุ้นนายกฯอีกรอบ ทั้ง ” เขยใหญ่-พี่เมีย-ภรรยา” เรียกแถวกันมาเลยตั้งแต่ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ,พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์, คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ล่าสุดยังมีชื่อลูกสาวคนเล็กอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร โผลมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯฝั่งเพื่อไทยด้วยอีกคน เห็นแบบนี้ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ลงมาเล่นการเมืองเองไม่ลงมาคุมพรรคพลังประชารัฐลุยเลือกตั้งรอบหน้าอนาคตอาจลำบาก จะให้ลอยตัวกินบุญเก่าแล้วได้กลับเข้าทำเนียบก็คงยาก เลือกตั้งเที่ยวหน้านายกฯสมัย 3 มองยังไงพล.อ.ประยุทธ์ก็คงต้องลงจากหิ้งมาคุมพรรคด้วยตัวเอง ถ้าหวังจะกลับมารักษาบ้านเมืองปกป้องสถาบันอีกครั้ง
/////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมการจัดหางาน" จับมือสถานประกอบการภาคเอกชน จ้างงานผู้สูงอายุ ขยายโอกาสมีงานทำ มีรายได้ คุณภาพชีวิตดี
กรมพัฒน์ จับมือ ม.กาฬสินธุ์ เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แรงงานทุกช่วงวัยด้วย Credit Bank
จำให้ขึ้นใจ 4 วิธีป้อง "มิจฉาชีพ" ล้วงเงินในบัญชี ดูไว้ได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
ชาวไร่มันสำปะหลังเฮ "กู้เงิน ธ.ก.ส." ได้สูงสุด 230,000 บาท พร้อมสินเชื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูก ผ่อนนาน 5 ปี
อดีต ผอ.รพ.คนแรกของจังหวัดสระแก้ว ยิงตัวเองดับคาบ้านพัก
"ก้าวไกล" รัฐบาลโพลเรตติ้งนำโด่ง ยี่ห้อ "ทักษิณ" เข็น "พท." ได้ที่ 2 ตั้งรัฐบาลขั้วเดิม
“วราวุธ” ย้ำยังไม่ได้รับสัญญาณปรับครม. ชี้เป็นอำนาจนายกฯตัดสินใจ
บีบ "วันนอร์" นั่ง "รองนายกฯ" แลก "ประธานสภา" "สุทิน - ชลน่าน" เป่ายิ้งฉุบชิงบัลลังก์
Top News เปิดใจ ผู้หนีภัย "ชาวเมียนมา" ซึ้งน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน เผยสถานการณ์สู้รบรุนแรง
"อนุทิน" ยืนกรานภท.ไม่ปรับเปลี่ยน 8 รมต.ร้องเพลงคลอเมื่อไหร่จะจบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น