“กองทัพภาคที่ 2” อัปเดต เหตุปะทะ 13 แนวรบ สมรภูมิอีสาน 4 วัน ปลิดชีพทหารเขมรแล้ว 102 ราย ทำลายโดรน 64 ลำ

ทภ.2 อัปเดตสถานการณ์สู้รบสมรภูมิอีสาน ปลิดชีพทหารเขมรแล้ว 102 ราย ทำลายรถถึง 5 คัน BM21 อีก 1 คัน ปฏิบัติการยึดพื้นที่ ยังถูกต้านหนัก

“กองทัพภาคที่ 2” อัปเดต เหตุปะทะ 13 แนวรบ สมรภูมิอีสาน 4 วัน ปลิดชีพทหารเขมรแล้ว 102 ราย ทำลายโดรน 64 ลำ – Top News รายงาน

 

 

กองทัพภาคที่ 2

 

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 17.16 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 11 ธันวาคม เวลา 17.00 น.ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 กัมพูชาได้ทำการยิงใส่ชุดลาดตระเวนของทหารไทยในพื้นที่ภูผาเหล็ก อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นเหตุให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และได้เริ่มเปิดฉากการยิงด้วยปืนใหญ่และจรวดหลายลำกล้อง หรือ BM-21 เข้ามายังพื้นที่ดินแดนไทยตลอดแนวชายแดน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ทำให้บ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตร และสถานพยาบาลในพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างมาก

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้เร่งอพยพประชาชนเข้าพื้นที่ปลอดภัย ณ ศูนย์พักพิงประจำจังหวัดที่ได้จัดเตรียมไว้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หลังจากนั้นฝ่ายเราจึงได้ ทำการยิงตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังอย่างได้สัดส่วนไปยังพื้นที่ที่เกิดภัยคุกคาม ด้วยอาวุธวิถีตรงและวิถีโค้งต่อฝ่ายกัมพูชา เพื่อสกัดกั้น ยับยั้งและทำลายอันตรายที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ อันประกอบด้วยพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน 13 แนวรบ ดังนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1. ด้าน จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แนวรบหลัก ได้แก่ พื้นที่ช่องบก ,พื้นที่ช่องอานม้า

2.ด้าน จ.ศรีสะเกษ จำนวน 5 แนวรบหลัก ได้แก่ พื้นที่ซำแต ,โดนตรวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า ,ผามออีแดง และห้วยตามาเรีย ,ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ,ช่องสะงำ

3. ด้าน จ.สุรินทร์ จำนวน 5 แนวรบหลัก ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี ,พื้นที่คนา ,พื้นที่ตาควาย ,พื้นที่ช่องกร่าง ,พื้นที่ตาเมือนธม

4. ด้าน จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 แนวรบหลัก ช่องสายตะกู

 

 

ผลการปฏิบัติที่สำคัญในวันที่ 11 ธันวาคม
1.ช่องอานม้า เข้าควบคุมพื้นที่ได้บางส่วน
2.เข้าทำลายฐานปฏิบัติการข้าศึก บริเวณพื้นที่ซำแต
3.พื้นที่ช่องระยี – ช่องเปรอ เข้ายึดพื้นที่คืนถึงเส้นปฏิบัติการ แต่ยังถูกต่อต้านเป็นระยะ
4.พื้นที่คนา เข้ายึดแล้ว 2 ที่หมาย ปัจจุบันถูกตีโต้ตอบจากฝ่ายตรงข้าม
5.พื้นที่ตาควาย ยิงทำลายฐานทหารรอบปราสาท และเนิน 350 แต่ยังเข้าควบคุมไม่ได้ เนื่องจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากอาวุธยิงสนับสนุน โดรน และกับระเบิดของฝ่ายกัมพูชาอย่างหนาแน่น

ทั้งนี้จากการปฏิบัติของฝ่ายเรา ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมาคาดว่า
1. ทหารกัมพูชา เสียชีวิต 102 ราย
2. ทำลายรถถัง T-55 จำนวน 6 คัน ในพื้นที่พนมประสิทธิโส
3. ทำลายจรวดหลายลำกล้อง BM-21 จำนวน 1 คัน
4. ทำลายระบบโดรน จำนวน 64 ลำ
5. ทำลายแอนตี้โดรน 1 ระบบ ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย

 

 

 

ส่วนการอพยพประชาชน ปัจจุบันในพื้นที่ 31 อำเภอ 4 จังหวัดชายแดน และ 4 อำเภอ 1 จังหวัดพื้นที่ตอนใน ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 751 แห่ง รวม 222,548 คน ประกอบด้วย
จ.อุบลราชธานี 34,104 คน
จ.ศรีษะเกษ 106,691 คน
จ.สุรินทร์ 74,640 คน จ.บุรีรัมย์ 6,780 คน
จ.นครราชสีมา 333 คน

ยอดอพยพประชาชนกลุ่มเปาะบาง จำนวน 182 จุด ประชาชน จำนวน 22,999 คน ประกอบด้วย จังหวัด อุบลราชธานี จำนวน 175 คน จังหวัดศรีษะเกษ จำนวน 91 คน จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 22,112 คน และจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 621 คน

กองทัพภาคที่ 2 ย้ำว่าจะดำเนินการทุกมาตรการเพื่อความมั่นคงปลอดภัย และรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มกำลัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"มาดามแป้ง" ส่งผ้าห่ม 6,000 ผืน ช่วยผู้อพยพ จากเหตุปะทะชายแดน
โรงพยาบาลตราดชี้แจงเหตุซ้อมอพยพผู้ป่วย เป็นเพียงแผนฝึกซ้อม ยืนยันสถานการณ์ในจังหวัดยังปกติ
ช่วย 2 หนุ่มชาวเวียดนาม หนีข้ามแดนเข้าไทย กลัวถูกไข่ F-16 บอม คาด..ถูกขังในรังสแกมเมอร์
ชาวนครสวรรค์ กลุ่มที่ 2 เดินทางเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง
สจล. เปิดตัว “วิทยาเขตฉะเชิงเทรา” ปักธงศูนย์กลางพัฒนากำลังคนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
จันทบุรี หมู่บ้านชายแดนเงียบสงบ ปชช.อพยพลี้ภัยกว่า80%

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​