นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ธงของพรรคประชาชน ต้องการให้เกิดความสงบ และทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ ส่วนที่มีการตั้งคำถามว่าฝั่งกัมพูชาไม่จริงใจบนโต๊ะเจรจาจะทำอย่างไรนั้น วิธีการคือไทยต้องบีบกัมพูชาทุกทางไม่ว่าจะเป็นการตัดกำลังทางการทหารเพื่อไม่ให้เขาโจมตี หรือพุ่งเป้าไปที่เครือข่ายสแกมเมอร์ ใช้โลกล้อมกัมพูชาเพื่อให้ไทยได้เปรียบ  ตราบใดที่เราใช้เรื่องสแกมเมอร์เป็นแกนกลางทางด้านการทูต จะทำให้ประเทศมหาอำนาจทุกประเทศทั่วโลกล้อมกัมพูชา ไม่ใช่ให้ไทยตกอยู่ในสถานะผู้รุกราน

เมื่อถามว่าเป้าหมายของกองทัพพุ่งเป้าไปที่ฐานของสแกมเมอร์ด้วย นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า การโจมตีเป้าหมายแบบนี้ทำได้ ถ้ายึดบนฐานข้อเท็จจริง ซึ่งกองทัพก็ออกมาให้ข้อมูลแล้ว แต่ขอให้ระมัดระวัง อย่าให้เกินกรอบมากกว่านี้ นายกฯ ไม่ควรสื่อสารเช็คเปล่าฝ่ายความมั่นคง และปัดให้ฝ่ายความมั่นคงทุกเรื่อง ส่วนตัวเองลอยตัวอยู่เหนือปัญหา อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรนายกฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะเป็นฝ่ายบริหาร

นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทยจะจบในรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น ตนมองว่าความขัดแย้งชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นมานานกว่า 10 ปี การทำให้จบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตนไม่อยากเห็นการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองอย่างหนึ่งอย่างใด การบริหารสถานการณ์ให้จบโดยเร็วที่สุดเป็นเรื่องที่ดี การจะแก้ปัญหาให้จบ 100% ต้องพูดคุยกันทั้ง 2 ฝ่าย และปักปันแนวเขตแดนให้ครบ แต่โอกาสนั้นก็เป็นไปได้ยาก ซึ่งรัฐบาลเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน ส่วนการที่คนในรัฐบาลติดแฮชแท็กว่า “ให้จบที่รุ่นเรานั้น” ขอส่งคำถามกลับว่า จะทำให้จบในรุ่นนี้จริงๆ หรือ และจะจบที่ตรงไหน จะใช้กองทัพทำลายกัมพูชาให้ราบคาบ แล้วไทยขาดความชอบธรรมในสายตาของโลก จะทำแบบนั้นจริงๆ หรือ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องจบอยู่ที่การเจรจาอยู่ดี ดังนั้นต้องกดดันให้กัมพูชากลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาให้ได้

เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน ได้โพสต์ว่า การปะทะกันในครั้งนี้เป็นการสร้างกระแสความนิยมของพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า สามารถประเมินแบบนั้นได้ แต่ตนยังไม่อยากสรุปโดยที่ยังไม่ทราบความจริง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตไว้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ที่กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากก่อน ซึ่งก็เหมือน 2 ครั้งที่ผ่านมา หลังมีความพยายามพุ่งเป้าปราบปรามสแกมเมอร์ ก็มีการปะทะกันที่ชายแดนกันเกิดขึ้น ตนจึงไม่อยากให้ตกอยู่ในหลุมพราง หากกองทัพของไทยหากทำเกินหลักกติกาสากลขึ้นมา ไทยจะขาดความชอบธรรมทันที อีกทั้งการพูดของนายกรัฐมนตรีไปเสริมให้ตกหลุมพราง