เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2568 ที่ศาลาการเปรียญวัดประชุมชลธารา ม.5 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราช บัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ ประชุมรับฟังความเห็นภาคประชาชน โดยมีนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ เขต5 จ.นราธิวาส, นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ เขต 3 จ.ยะลา, นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รอง ผวจ.นราธิวาส ได้เข้าร่วมประชุม โดยมีตัวแทนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 8 หมู่บ้าน ต.สุไหงปาดี จำนวนกว่า 300 คน ที่ได้รับผลกระทบจากที่ดินทำกินซับซ้อนกับเขตป่าสงวน เขตสัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติและเขตล่าสัตว์ป่าฯ ที่หมกหม่ำมานานกว่า 25 ปี แถมประชาชนบางรายถูกจับกุมดำเนินคดี ได้แสดงความคิดเห็นหลากหลายและเป็นประโยชน์ เพื่อรวบรวมนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐาน ในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยพื้นที่ อ.สุไหงปาดี มีพื้นที่ของชาวบ้านประมาณ 16,000 ไร่ ที่เป็นปัญหา
โดย พ.ต.อ. ทวี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวในที่ประชุมพอสรุปใจความว่า หลายพื้นที่ชุมชนและวัดวาอารามตั้งอยู่มาก่อนนับร้อยปี แต่กลับถูกภาครัฐประกาศเขตป่าสงวนหรืออุทยานแห่งชาติทับที่ในภายหลัง ทั้งที่ตามหลักกฎหมาย ก่อนจะมีการประกาศเขตหวงห้าม เจ้าหน้าที่ต้องเดินสำรวจด้วยเท้า เพื่อกันพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ออกไป แต่ในอดีตกลับไม่มีการดำเนินการอย่างถูกต้อง ทำให้ประชาชนกลายเป็นผู้บุกรุกในที่ดินของตนเอง หรือ ผลักดันให้ประชาชนกลายเป็นโจร
“ ยกตัวอย่างการแก้ปัญหาเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี การต่อสู้เพื่อพิสูจน์สิทธิ์ต้องใช้หลักฐานแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมสำคัญที่เก็บรักษาไว้ที่ GISTDA แต่ในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ชุมพรลงมา ไมโครฟิล์มเสียหาย ทำให้ขาดหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศในการนำมาซ้อนทับ เพื่อพิสูจน์ร่องรอยการทำกิน ร่องรอยสวนยาง และบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่มีมาก่อนการประกาศเขตป่า
ซึ่งกฎหมายที่ดีต้องไม่ด้อยค่าเกษตรกร หรือกำหนดเงื่อนไขว่าผู้ได้รับสิทธิ์ที่ดินต้องยากจน แต่ควรส่งเสริมให้เกษตรกรมีความมั่นคงและร่ำรวยได้ เหมือนในต่างประเทศ พร้อมยืนยันที่จะใช้กระบวนการยุติธรรมนำหน้า เพื่อพิสูจน์เจตนาบริสุทธิ์ของชาวบ้าน ที่อยู่อาศัยทำกินมาก่อนและแก้ไขความผิดพลาดของรัฐที่เกิดขึ้นในอดีต ตนขอย้ำเรื่องนี้ตนจะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ชาวบ้านทุกคนจะได้คืนที่ดินหรือมรดกทำกินในยุคตนกลับคืนมาอย่างแน่นอน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 ช่วงเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรสามัญประจำปีครั้งที่ 2” พ.ต.อ.ทวี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
ภาพ/ข่าว กรียา ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.นราธิวาส
