


วันที่ 24 พ.ย. 2568 สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะอำเภอหาดใหญ่และบางกล่ำ ยังคงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง หลังปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชนอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำติดคลองอู่ตะเภา ระดับน้ำสูงถึงประมาณ 2 เมตร ขณะที่พื้นที่ชุมชนสามสกุลหน้ากุโบและชุมชนต้นโหนด มีรายงานระดับน้ำสูงกว่า 3 เมตร จนไม่สามารถพักอาศัยชั้นล่างได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งใช้เรือและเจ็ตสกีเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือและอพยพประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบางอย่างเร่งด่วน โดยมีรายงานการช่วยเหลือประชาชนออกจากจุดเสี่ยงไปแล้วเกือบ 90 ราย และเจ้าหน้าที่ยังคงร้องขอเรืออีกจำนวนมากในการอพยพผู้ประสบภัยที่ยังตกค้าง



นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษม เปิดเผยว่า ระดับน้ำได้ขึ้นสูงจนท่วมถึงชั้นสองของบ้านเรือนบางส่วนแล้ว ทำให้ชั้นหนึ่งไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และเจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนเป็นการด่วนเนื่องจากสถานการณ์ค่อนข้างโกลาหลและระดับน้ำขึ้นเร็วมาก เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยได้ฝากเตือนประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเน้นย้ำว่า “การออกสู่ด้านนอก (จากพื้นที่น้ำท่วม) เป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกวิธี” และหากเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ออกข้างนอกก็ต้องออกเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังระบุว่ายังต้องการเรืออีกจำนวนมากในการอพยพประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านบางแฟบที่มีเรือไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ตกค้างจำนวนมาก

ด้านนายณัฐวุฒิ โสะเบ็ญอาหลี ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ซึ่งจัดตั้งศูนย์พักพิงมาสามวันแล้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์อพยพ ขาดแคลนน้ำและอาหารเป็นจำนวนมาก จึงขอความอนุเคราะห์จากประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาสามารถนำมาบริจาคได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยศูนย์แห่งนี้ยังเป็นจุดที่ชาวบ้านสามารถมารับอาหารและชาร์จแบตเตอรี่ได้


จรัส ชูศรี ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.สงขลา

