เมื่อเวลาประมาณ 15.22. น. วันที่ 23 พ.ย. 68 สมาคมกู้ชีพธรรมนันท์เชียงราย ได้รับแจ้งเหตุรถมอเตอร์ไซค์พุ่งข้ามเลนไปเฉี่ยวชนกับรถกระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย พื้นที่บ้านทรายงามใต้ ม.19 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จึงนำกำลังและอุปกรณ์ช่วยเหลือไปลงพื้นที่ตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนหมายเลข 1020 ช่วงเชียงราย-เทิง พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า บีที50 สีดำ ทะเบียน กทม. จอดอยู่กลางถนน ด้านหน้ารถฝั่งซ้ายมีร่องรอยการเฉี่ยวชน ห่างไปประมาณ 10-15 ม. พบรถมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน พะเยา สภาพรถพังเสียหาย มีเศษชิ้นส่วนรถตกเกลื่อนถนน และพบร่างผู้บาดเจ็บเพศชายอยู่ในร่องข้างทาง ปลุกไม่รู้สึกตัว มีเลือดออกปากและจมูก จากการตรวจสอบเอกสารบัตรประชาชนและบัตรนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะฯที่ติดตัว ทราบชื่อคือนายพี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ชาวบ้าน ต.ทุ่งผาสุข อ.เชียงคำ จ.พะเยา เจ้าหน้าที่และอาสากู้ภัยช่วยเหลือและทำ CPR เบื้องต้น ก่อนนำร่างผู้บาดเจ็บส่งต่อรถฉุกเฉิน รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ แต่ได้รับแจ้งในภายหลังว่าผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.
จากการสอบถามผู้อยู่ในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นชาวบ้าน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ขับรถมาจากทาง อ.เทิง มุ่งหน้าเข้าไปตัวเมืองเชียงราย เพื่อจะกลับไปเรียนหนังสือที่วิทยาลัยอาชีวะในเมืองเชียงราย แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่ารถอาจตกหลุมกลางถนน ทำให้รถเสียหลักพุ่งออกนอกเลน ข้ามไปยังเลนที่มีรถกระบะขับตามหลังรถเก๋ง แต่พอรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักข้ามเลนไปหา รถเก๋งจึงได้หักรถหลบได้ทัน แต่รถกระบะที่ตามหลังพยายามเบี่ยงรถหลบแต่ไม่พ้น รถมอเตอร์ไซค์ได้เฉี่ยวชนเข้าที่ด้านหน้ารถกระบะฝั่งซ้าย และรถมอเตอร์ไซค์ล้มลงข้างทาง คนขับกระเด็นตกลงไปในร่องน้ำ บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมาดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แน่ชัด และดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฏหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิต หากเสร็จสิ้นกระบวนการชันสูตรก็จะมิบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นถนน 2 เลน รถต้องขับสวนเลนกัน และมีรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายดังกล่าวเป็นประจำแทบทุกวัน ด้วยสภาพถนนที่แคบ ถูกใช้งานมาเป็นเวลานาน ผิวจราจรบางจุดมีการชำรุดเสียหาย ประกอบกับมีรถสัญจรเยอะ ทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีโครงการขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดอุบัติเหตุ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของโครงการ คาดว่าอาจจะใช้เวลาดำเนินการอีกประมาณ 2-3 ปี กว่าจะแล้วเสร็จ
