ล่าสุดนายไผ่ ลิกค์ โพสต์ต่อว่า.. แถลงการณ์ของ นาย ไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร
เรื่อง : การชี้แจงข้อกล่าวหา และข้อเรียกร้องการตรวจสอบเส้นทางเงิน
บริจาคของ ส.ส. รักชนก ศรีนอก
1. ประเด็นที่สังคมต้องได้รับคำตอบตามข้อกฎหมาย
ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า
ประเด็นที่ผมตั้งคำถามตั้งแต่ต้นมีเพียงข้อเดียว คือ
ที่มาของเงินบริจาคจำนวน 200,000 บาทของ ส.ส. รักชนก ศรีนอก
มีเส้นทางเงินตามกฎหมายหรือไม่
การบริจาคเงินให้พรรคการเมืองอยู่ภายใต้
• พ.ร.ป.พรรคการเมือง
• พ.ร.ป.ป.ป.ช.
• และข้อกำหนดของ กกต.
ซึ่งกำหนดชัดเจนว่า
เงินบริจาคต้องตรวจสอบได้ และต้องมีแหล่งที่มาชัดเจน
ซึ่งจนถึงขณะนี้ ผู้ถูกตั้งคำถาม ยังไม่แสดงเอกสารทางการเงินแม้แต่ชิ้นเดียว
มีเพียงคำอธิบายเชิงวาทกรรม เช่น “เงินเดือนพอทำได้” หรือ “พรรคไม่มีทุน
ใหญ่”
ซึ่ง ไม่ใช่คำชี้แจงที่เพียงพอต่อการตรวจสอบตามกฎหมาย
และไม่อาจแทนที่ “หลักฐานเส้นทางการเงิน” ได้
ผมจึงขอย้ำว่า
คำถามนี้เป็นคำถามเชิงกฎหมาย ไม่ใช่ความขัดแย้งส่วนตัว
และสังคมสมควรได้รับคำตอบตามหลักฐาน ไม่ใช่ตามอารมณ์
2. ความพยายามเบี่ยงประเด็นของ ส.ส. รักชนก เพื่อหลีกเลี่ยง
การตรวจสอบ
แทนที่จะชี้แจงเส้นทางเงินบริจาคตามกฎหมาย
กลับมีการนำคดีอื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้องมาใช้เพื่อสร้างความคลุมเครือ ได้แก่
• คดีรถหรูที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องและศาลยกฟ้องบุคคลที่ถูกกล่าวถึงแล้ว
• ประเด็นส่วนตัวเมื่อหลายสิบปีก่อน
• การตั้งข้อสงสัยเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี
• และการโจมตีด้วยถ้อยคำทางการเมืองเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของผม
ผมขอระบุอย่างชัดเจนว่า
การนำคดีที่ศาลยกฟ้อง หรือคดีที่ไม่ได้เกี่ยวกับเงินบริจาคมาใช้โจมตี
ไม่ใช่การตอบคำถามตามข้อเท็จจริง และเป็นการเบี่ยงประเด็นที่ตั้งใจหลีก
เลี่ยงการตรวจสอบ
3. กรณีคดีทำร้ายร่างกายเมื่อปี 2548 ถูกนำมาใช้บิดเบือนข้อกฎหมาย
ผมถูกกล่าวหาว่า “ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี” จากคดีดังกล่าว
ซึ่งเป็น ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนทางกฎหมาย
หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตีความ ได้แก่
• สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
• คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ)
• ศาลรัฐธรรมนูญ
ทั้งหมดได้วินิจฉัยตรงกันอย่างชัดเจนว่า
กรณีดังกล่าว
“ไม่เข้าลักษณะต้องห้าม”
ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160
และเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีในการพิจารณาเสนอชื่อรัฐมนตรี
การนำประเด็นนี้มากล่าวอ้าง
จึงเป็นการ บิดเบือนข้อกฎหมาย และเป็นการโจมตีเพื่อหวังผลทางการเมือง
เท่านั้น
4. ประเด็นหนี้ 550,000 บาท ผมพร้อมให้ตรวจสอบเต็มรูปแบบ
สำหรับประเด็นเรื่องหนี้ตามคำพิพากษา 550,000 บาทนั้น
ผมขอยืนยันว่า
ผมพร้อมให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินที่ผมยื่นไว้ในทุกวาระ
ไม่ว่าจะเป็น
• หนี้สิน
• รายการทรัพย์สิน
• หรือเอกสารประกอบทั้งหมด
ผมไม่มีเหตุผลใดในการปกปิด และพร้อมพิสูจน์ด้วยเอกสารตามกฎหมาย
ตรงกันข้าม
ผู้ถูกตั้งคำถามกลับไม่ยอมเปิดเผยสเตทเมนต์หรือเส้นทางเงินจำนวน
200,000 บาทตามที่ควรทำ
5. ข้อเรียกร้องตามหลักนิติธรรม ส.ส.รักชนก ต้องเปิดเอกสาร
ให้สังคมตรวจสอบ
เพื่อให้เรื่องนี้ยุติด้วยข้อกฎหมายและหลักฐาน
ผมจึงเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้
ส.ส. รักชนก ศรีนอก เปิดเผยเส้นทางเงินบริจาคจำนวน 200,000 บาท
พร้อมสเตทเมนต์บัญชีที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณะ
นี่คือวิธีที่โปร่งใสที่สุด
และเป็นการให้เกียรติต่อสถาบันรัฐสภาและประชาชนผู้เสียภาษี
การเมืองที่ดีต้องยืนอยู่บนมาตรฐานเดียวกัน
ไม่ใช่ใช้วาทกรรมหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ
6. ข้อสรุปและจุดยืน
ผมขอยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง ดังนี้
• ผมพร้อมให้ตรวจสอบทุกประเด็นตามกฎหมาย
• ผมไม่หลบ ไม่เลี่ยง ไม่บิดเบือน
• ผมยืนยันให้ทุกฝ่ายอยู่ใต้กติกาเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ผมขอเรียกร้องให้ผู้ถูกตั้งคำถาม
หยุดเบี่ยงประเด็น และเปิดเส้นทางเงินบริจาคต่อสังคม
ประชาชนสมควรได้รับข้อเท็จจริง มากกว่าการสร้างภาพทางการเมือง
ทุกคนอยากเห็นเอกสาร หลักฐานต่างๆ มากกว่า วาทกรรม และ
ความโปร่งใส ต้องไม่ใช่ความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง
นี่คือจุดยืนของผม
ไผ่ ลิกค์
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดกำแพงเพชร